ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดว่า ทำไมกลัวโรงพยาบาล
เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ ง่าย ๆ แล้วกันว่าผมกลัวการที่จะต้องไปโรงพยาบาลประจำอำเภอ หรือโรงพยาบาลที่จังหวัด
เมื่อเรียนอยู่ที่อเมริกา
ก็เคยใช้บริการโรงพยาบาลของคณะแพทย์ในมหาวิทยาลัย
ไม่มีปัญหาอะไรเป็นเรื่องปวดหัวตัวร้อน
ต่อมาเมื่ออยู่ฝรั่งเศสได้ออกกำลังด้วยการเดินเยอะมาก
และตีเทนนิสฝึกฝนเพื่อออกกำลังกาย ไม่ได้ตีในสนามจริง เป็นสนามซ้อม
ปวดหัวตัวร้อนหรือกระทั่ง panic attack ชนิด small
episode ขึ้นมา ก็อาศัยเพื่อน
มันเป็นหมอชาวเอธิโอเปียกำลังเรียนเฉพาะทาง มันหาหยูกยามาให้
กลับมาทำงานในเมืองไทย
ฝ่ายการพนักงานของบริษัทมีโรงพยาบาลเอกชนเป็นเจ้าจำนำกันอยู่ ก็ได้อาศัยบริการ health
care ที่นั่น
เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อกลับมาอยู่บ้านชนบท
ก็ต้องไปอนามัยตำบล-ซึ่งเขาเปลี่ยนชื่อใหม่แล้วว่า “โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ” ประจำตำบลนั้นตำบลนี้
กับต้องอาศัยโรงพยาบาลอำเภอหรือจังหวัด ของกระทรวงสาธารณสุข
กลัวครับ กลัวโรงพยาบาลหลวง
เพราะไม่เคยใช้บริการ กลัวแม่งหมดเริ่มตั้งแต่เรื่อง ad min เช่น
การจะต้องไปทำบัตร เป็นต้น จนไปเรื่องอื่น ๆ เรื่อย ๆ เลย ความประสาทดังกล่าวนี้
ทำให้ปฏิเสธตัวเองที่จะไปโรงพยาบาล โดยนึกว่าตัวเองจะหายจากอาการป่วยไข้ได้เอง
ร่างกายของเราเองมันจะบำบัดรักษาตัวมันเองได้ อะไรทำนองนั้น คือหาเรื่องคิดที่จะได้ไม่ต้องไปโรงพยาบาล
กินพาราไปเรื่อย ๆ แล้วกัน แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง
ท่านผู้อ่านย่อมทราบอยู่แล้วว่า
โลกแห่งความจริงมันไม่เป็นอย่างนั้นหรอก
พาราเซ็ทตามอนไม่ใช่ประธานาธิบดีของโลกสุขภาพที่เป็นจริง ซึ่งเริ่มจากอาการปวดในช่องท้องมากขึ้นเรื่อย
ๆ ปัสสาวะกะปริบกะปรอย และปวดจนทนไม่ไหว
จึงออกปากบอกหลาน มันก็มาพาไปโรงพยาบาลอำเภอ ทำบัตรโรงพยาบาล
ทำการบำบัดรักษาด้วยยา
โล่งใจไปที คือ ความกลัวปัญหา ad
min หายไปเปลาะหนึ่ง มีบัตรโรงพยาบาลแล้ว
นึกขอบใจหลานมันช่วยพาไปเข้าช่องนั้นช่องนี้ ช่วยกรอกแบบฟอร์มให้หมด
เราเซ็นชื่ออย่างเดียว
แต่นั่นแหละ
หมอที่โรงพยาบาลอำเภอแกก็เป็นแพทย์ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง จบจากคณะแพทย์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือว่า แกไม่ได้เป็นหมอเทวดา หรือหมอผี การรักษาทางยาไม่ได้ผล ภายในอาทิตย์สองอาทิตย์
อาการปวดแสนสาหัสก็กลับมาอีก ฉี่ไม่ออกเลย ก็ต้องส่ง SMS ไปรอบทิศ ใครว่างช่วยพาไปห้องฉุกเฉินที(ฉันมีบัตรรพ.แล้ว)
หลานสาวมาพาไปเข้าห้องฉุกเฉินและนั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องกว่าครึ่งวัน
ตอนบ่ายหลานชายมาเข้าเวรต่อ
เล่าเรื่องยาวให้สั้นแล้วกันว่า
ในวันต่อมาหมอบอกว่า ต้องส่งไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลจังหวัด
รายการนี้โรงพยาบาลอำเภอทำไม่ได้
ต้องไปผ่าตัดใส้เลื่อนและมีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมากด้วย
เขามีรถโรงพยาบาลจากโรงพยาบาลอำเภอส่งตัวไปรพ.จังหวัด ชื่อ
“โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์” ซึ่งก็ได้รับการผ่าตัดภายในไม่กี่ชั่วโมงที่ไปถึง
คนในห้องผ่าตัดพูดภาษาใต้ ได้ยินแล้วใจชื้นขึ้นเยอะเลย
ผ่าตัดแล้วต้องอยู่โรงพยาบาลสามสี่วัน มีน้ามาช่วยเฝ้าใข้ ต้องมีญาติมาเฝ้าใข้
คนเฝ้าใข้ก็จะปูเสื่อนอนข้าง ๆ เตียงคนใข้ ในห้องโถงใหญ่มีคนใข้นับสิบ
เป็นพวกที่ออกมาจากห้องผ่าตัดหรือรอเข้าห้องผ่าตัดทั้งนั้น
ผมไม่ได้อยู่ห้องพิเศษ-เพราะไม่ใช่คนร่ำคนรวย
แต่ก็ไม่ได้น้อยใจในโชคชะตาหรืออะไรนะ พอใจแล้ว
รู้สึกอบอุ่นใจกับการนอนในห้องรวมกับคนใข้อื่น ๆ อีกนับสิบ ๆ คน
พาลนอนดัดจริตคิดไปว่า ถ้ากูมีสิบล้านร้อยล้าน กูก็จะอยู่อย่างนี้แหละ กูชอบแล้ว
อุ่นใจดีมีเพื่อน
บทความบทนี้ต้องการขอบคุณทุก ๆ คน ใกล้และไกล ขอบคุณเจ้าหน้าที่รักษาพยาบาลทั้งหมอ พยาบาล
ผู้ช่วยฯ ฯลฯ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ad min ทั้งหลาย
ขอบคุณประเทศไทย แผ่นดินไทย ที่ให้การดูแลยามป่วยใข้
รู้สึกสำนึกในเดชะพระบารมีพระเจ้าอยู่หัว พระบารมีเสด็จในกรมฯ กรมหลวงชุมพรฯ ซึ่่งชาวบ้านหลาย ๆ คน เรียกท่านว่า "หมอพร"
ข่าวดีสำหรับตัวเอง คือ
หลังจากครั้งแรกนั้นแล้วก็หายกลัวโรงพยาบาล ถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ จะไม่กวนลูกหลาน จะไปโรงพยาบาลด้วยเองทั้งที่อำเภอและที่ตัวจังหวัด
เพียงด้วยอาศัยเดชะพระบารมีปกเกล้าฯ(ทำให้มีกำลังใจ) ก็เดินทางไปด้วยตนเองได้แล้ว
ไม่นานมานี้ไปเรื่องต่อมลูกหมากที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ โดยรพ.หลังสวน
ทำหนังสือส่งตัวไป ก็ตื่นแต่ตีสี่หุงหาอาหารกินเสร็จสรรพ คดห่อไปกินที่ชุมพรด้วย
นัดเพื่อนบ้านที่เขาขี่มอร์ไซด์รับจ้างที่ตัวอำเภอ ให้มารับไปส่งที่คิวรถตู้ไปชุมพรตอนตีห้า
รถคิวแรกออกหกโมงเช้า ถ้าคนเต็มก่อนหกโมงก็จะออกรถเลย
เด็กหลังสวนสองสามคนที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนประจำจังหวัด “โรงเรียนชุมพรศรียาภัย”
จะไปรถเที่ยวแรกนี้ เพราะฉะนั้นรถมักจะเต็มก่อนหกโมง
ที่โรงพยาบาลชุมพรคนเยอะมาก
แต่เขาแยกการติดต่อเป็นแผนก ๆ ถึงแม้ดูคนจะมากตอนแรกเข้า แต่ระบบการจัดการ จัดคิว
ดีมาก คนมากทว่ารอไม่นาน
จึงรู้สึกว่าคนเยอะสิดี-มีเพื่อนร่วมงานสนุกสนานดี หรือพวกเรามาเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน
พบหมอ รับยา แล้วออกมารอรถสองแถวเพื่อให้ไปส่งที่คิวรถตู้กลับหลังสวน
หน้าโรงพยาบาลชุมพรมีคนขายลอตเตอรี จึงเดินเข้าไปเมียงมองดู
ปรากฏว่าเป็นหวยชุดทั้งนั้นเลย คนขายบอกว่าขายปลีกเป็นใบ ๆ ไม่มีหรอก
ซื้อชุดซี ผู้เขียนตอบคนขายไปว่า
ไม่เอาหรอก กลัวรวย! รวยขึ้นมาแล้วชีวิตจะยุ่ง
แม่ค้าจึงหันไปคอมเม้นดัง ๆ กับแม่ค้าอีกคนหนึ่งที่ขายอยู่ใกล้ ๆ กัน ว่า
แกรวยอยู่แล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น