open letter no 2

Chicago 2 why Chicago

Chicago 2 ทำไม ผมต้องดัดจริต ฟังวิทยุชิคาโก ด้วย? ๑.    ผมติดนิสัยชอบฟังวิทยุตปท. จากแดนไกลเป็นนิสัยมาแต่มัธยม เพื่อฝึกภาษา ประกอบกับมีผู...

วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ภาษาสเปน: พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 เสด็จสเปน

ภาพข่าว เสด็จเยือนเมืองเซบีย่า(Sevilla) และพระราชวัง อัลคาซาร์ แคว้นอันดาลูเซีย สเปน




เมืองเซบีย่า และพระราชวังอัลคาซาร์ ผู้เขียนเคยไปมาครั้งหนึ่ง 

มหาวิหาร(cathedral) เมืองเซบียา เป็นโบสถ์ใหญ่ลำดับสามในโลกขึ้นชื่อเรื่องรูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสาน วิหารสร้างบนสุเหร่าที่ถูกรื้อทำลาย พวกคริสต์(คาธอลิค)ในสเปนยึดเมืองเซบีย่า(หรืออ่านภาษาอังกฤษว่า เซวิลล์)จากแขกมัวร์ได้เมื่อค.ศ.1248  ถึงปี 1401 ก็ตัดสินใจสร้างมหาวิหาร โดยรักษา มินาเระ หรือหอประกาศธรรมของชาวมุสลิมเอาไว้ แล้วแปลงมาเป็นหอระฆังของโบสถ์ 

ที่น่าสนใจก็คือ ตำนานเล่าว่า ตอนสร้างวิหาร คณะกรรมการสร้างวิหารประกาศ ว่า 

" Hagamos una Iglesia tan hermosa y tan grandiosa que los que la vieren labrada nos tengan por locos"

แปลว่า "มาเถิด-เรามาสร้างโบสถ์ที่สวยงามสุด ๆ และใหญ่โตมโหฬาร กระทั่งเมื่อชนรุ่นหลังพบเห็นเข้า จะต้องคิดว่าพวกเราเป็นคนบ้า"

คนสเปน เขามีวิธีพูดอะไรมันส์ ๆ ที่ถูกใจผู้เขียน...และคิดว่าอาจถูกใจผู้อ่านบางท่านด้วย

ที่ มินาเร่ หรือปัจจุบันเป็นหอระฆัง ผู้เขียนเคยเดินขึ้นไปถึงชั้นสูงสุด เท่าที่เขาอนุญาต เพื่อขึ้นไปยืนชมวิว เมืองเซบีย่า...

สำนักข่าวสเปน EFE เสนอข่าวสวรรคต อย่างต่อเนื่อง โดยตลอด


คลิปนี้เป็นข่าวล่าเกี่ยวกับขบวนช้าง  สำนักข่าวสเปน EFE เป็นสำนักข่าวอันดับสี่ ในโลกตะวันตก รองจาก สำนักข่าว AFP ของฝรั่งเศส  รอยเตอร์ของอังกฤษ และเอพี ของสหรัฐฯ




วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ภาษาสเปน: ละครโทรทัศน์ ซีรีส์ดัง ของสเปน Los Serrano





เสนอ แบ่งปันกันชม ตัวอย่างละครโทรทัศน์ซีรี่ส์ดังซีรีส์หนึ่ง ของสเปน เพลงประกอบตัวอย่างเพราะดีครับ

ละครโทรทัศน์ซีรีส์นี้ ชื่อ “โลส เซราโน” หรือ ครอบครัวเซราโน ฉายทางโทรทัศน์ช่องห้าของสเปน(เตเลซิงโก) และฉายในประเทศยุโรปอื่น ๆ ด้วย  แต่คงมาเมืองไทยไม่ได้ เพราะทางเมืองไทย คงจะชอบซีรีส์เกาหลี มากกว่า!

เพลงประกอบตัวอย่าง ชื่อ “Sin Ti Todo Anda Mal” แปลว่า ปราศจากเธอ ทุกอย่างเพี้ยนไปหมด

จะไม่พูดมาก ลองชมและฟังแล้วกันครับ...

------------------------------------------------------------------
ลิงก์ ที่เกี่ยวข้อง

กู้พลังงาน ที่มองไม่เห็น หล่อ
https://pricha123.blogspot.com/2016/12/blog-post_21.html

วิจารณ์การพูด ของ น้องคาร์โลส
https://pricha123.blogspot.com/2016/12/blog-post.html


วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ภาษาสเปน: กู้พลังงานที่มองไม่เห็น -ตัวอย่างภาษาสเปนที่น่าฟัง และหล่อ

ท่านผู้อ่านที่ติดตามเฟสบุคและติดตามบลอคของผู้เขียน คงจำได้ว่าสัปดาห์ที่แล้ว ผู้เขียนได้เสนอวีดีโอภาษาสเปนสำเนียงก้าสติย่า ที่ไม่ใช่ภาษาสเปนสำเนียงละตินอเมริกาที่หลายท่านอาจจะคุ้นเคย

โดยที่น้อง คาร์โลส ก็อนซาเลซ มาเล่าตำนานเบื้องหลังอักษรจีน โดยเล่าด้วยภาษาสเปนสำเนียงก้าสติย่า บนเวทีเท็ดทอล์ค เมืองวายาโดลิด ประเทศสเปน(Valladolid, Spain) ตัวดับเบิลแอลในภาษาสเปน ออกเสียงเหมือน ย.ยักษ์ ในภาษาไทย  น้องคาร์โลส ก็อนซาเลซได้เปิดฉากการพูดเป็นภาษาจีนกลางอันไพเราะ และภาษาสเปนของเขาก็เป็นสำเนียงที่ดี น่าฟัง

เมืองวายาโดลิด มีทีมฟุตบอลที่มีชื่อเสียงพอสมควร คือ ทีม “เรียล วายาโดลิด”(Real Valladolid) คำว่า real ในภาษาสเปน ตรงกับภาษาไทยว่า “ราช” หรือภาษาอังกฤษว่า royal เช่น ทีมบอล “เรียล มาดดริด” ถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็คือ Royal Madrid

ผู้เขียนไม่เคยไปเที่ยวที่เมืองวายาโดลิด แต่เคย “โดด” รถไฟด่วนหนีเจ้าหนี้ (เขียนให้ตื่นเต้น) ลงที่สถานีรถไฟวายาโดลิดตอนตีสี่ - เมื่อนานมาแล้ว  แล้วปล่อยให้พวกเจ้าหนี้(คนไทย)นอนหลับไปกับขบวนรถด่วน ไปออกไหน แห่งหนตำบลใด ก็ไม่รู้..... 

ส่วนผู้เขียน ซึ่งศึกษาตารางรถไฟมาแล้วและพูดสเปนได้ แวบลงที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่งที่รถด่วนจอดตอนตีสี่ โดยไม่รู้ว่าเป็นสถานีอะไร ต่อมาจึงรู้ว่าชื่อสถานีวายาโดลิด และโชคดีที่บังเอิญมีรถหวานเย็นจะผ่านสถานีนั้นตอนเช้าตรู่ ไปเมืองซาลามังกา อันเป็นเมืองที่ผู้เขียนชอบมาก และจะแวะไปที่นั่นทุกครั้งที่ไปสเปน  ทั้งนี้ในครั้งนั้น พวกเจ้าหนี้จะไม่มีวันรู้ว่าผู้เขียนหายไปไหน...(จนกระทั่งบัดนี้ เราก็ไม่เคยได้พบกันอีกเลย)

เมืองซาลามังกา เป็นเมืองมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของสเปน มีจัตุรัสกลางเมือง หรือ ปลาซา มายอร์ ที่สวยงามน่านั่งเล่น น่าทัศนา ดื่มกาแฟกับกินปาท่องโก๋สเปน(ชูโรส) เพื่อพักผ่อนฆ่าเวลา หรือผลาญเวลาเล่น ๆ เพลิดเพลินเจริญใจเป็นที่ยิ่ง ดีกว่านั่งที่ปลาซา มายอร์ กลางกรุงมาดดริดเป็นไหน ๆ เพราะที่มาดดริดนักท่องเที่ยวต่างประเทศเยอะ น่าเบื่อ 

ท่านที่สนใจว่า ปลาซา มายอร์ เมืองซาลามังกา มีเสน่ห์อย่างไร สามารถเคาะชมได้ในยูทูบ โดยเขียนว่า Plaza Mayor, Salamanca 

เมืองซาลามังกา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโตเมส อันเป็นแม่น้ำที่ปรากฏชื่ออยู่ในวรรณคดีที่มีชื่อเสียงของสเปน เรื่อง “ลาซาริโย เด โตเมส”(มีคนแปลเป็นภาษาไทยแล้ว)

ครั้งหนึ่ง ที่ ซาลามังกา ผู้เขียนโชคดีได้ยืนปะปนกับฝูงชน ต้อนรับทีมฟุตบอล เรียล มาดดริด ที่มาพักที่นั่น ชาวบ้านไปรอต้อนรับกันตึง หน้าโรงแรมที่พักซึ่งอยู่ใกล้กับ ปลาซา มายอร์  รถบัสขนนักบอลมีรถตำรวจนำ และบนทางเท้าหน้าโรงแรมมีแผงเหล็กกั้น เหมือนต้อนรับบุคคลสำคัญระดับชาติ





กลับมาที่เมืองวายาโดลิด ต่อไปดีกว่า รายการวีดีโอที่นำมาเสนอ แบ่งปันกันฟังนี้ พูดบนเวทีเท็ดทอล์ค เมืองวายาโดลิด เวทีเดียวกับวีดีโอดสัปดาห์ที่แล้ว  แต่ครั้งนี้เสนอการพูดภาษาสเปนล้วน ๆ ด้วยสำเนียงก้าสติย่า ไม่มีภาษาจีนกลางปนเหมือนสัปดาห์ก่อน วันนี้คนพูดเป็นนักเรียนวิศวกรรม ระดับมหาวิทยาลัย ชื่อคุณแฟนันโด อารานา เขามีไอเดียที่น่าทึ่ง และหล่อ (-หมายถึงไอเดีย ไม่ใช่คนพูด)

ที่เวลาวีดีโอ 0:55 เขาบอกว่าเมื่อพลโลกเพิ่มขึ้น อีก 35% ในปี 2100  ปัญหาโลกแตกในอนาคตมีอยู่สอง คือ เรื่องพลังงาน(เอเนเคีย - energía) กับเรื่อง อาลิเมนตาซิย็อน(alimentación – อาหาร)  

ซึ่งคุณแฟนันโด มีไอเดียมาเสนอการแก้ปัญหาพลังงาน(เอเนเคีย) แต่เขาไม่ได้เสนอให้ขุดหาน้ำมัน ถ่านหิน หรือกาซธรรมชาติเพิ่มขึ้น แต่เขาเสนอเรื่อง Recuperar las energías invisibles”     (เรกุปเปรา ลาส เอเนเคีย อินบิซีบเบละ)

หรือ “กู้พลังงานที่มองไม่เห็น คืนมา”

หัวใจของเรื่อง ได้แก่ la piezoelectricidad(ลา เปีย เอเลตริซิด้าด) คำ ๆ นี้ ภาษาอังกฤษว่า piezoelectricity(เปีย อิเลตริซิตี้) คำว่า ตี้-ty ในภาษาอังกฤษจะกลายเป็น “ด้าด”(dad)ในภาษาสเปน

เปีย เอเลตริซิด้าด หรือเปีย อิเลตริซิตี้ นี้ ผู้เขียนตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยินจากปากคุณ แฟนันโด เป็นครั้งแรก พจนานุกรมเล่มหนึ่งอธิบายว่า เกี่ยวกับการเปลี่ยนรูป หรือแปรรูปพลังงานกลเป็นพลังงานไฟฟ้า หรือพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล – ประมาณนั้น  ซึ่งผู้เขียนไม่รู้เรื่อง เขียนต่อไปอาจผิดพลาดได้  ท่านผู้อ่านที่ไม่รู้เหมือนผู้เขียน โปรดหาความกระจ่างเอาเองจะดีกว่า หรือขอคำอธิบายจากมิตรสหายที่เป็นวิศวกร หรือถามกูเกิ้ล ส่วนที่ห้องของพันทิปก็มีท่านหนึ่งสาธยายอย่างน่าสนใจ ท่านว่า คำ ๆ นี้ อ่านว่า “เพลีย อิเลตริซิตี้” แปลว่า กว่าจะได้เป็นวิศวกรไฟฟ้า โคดเพลีย...

ที่เวลาวีดีโอ 07:06 คุณแฟนันโดบอกว่า รถไฟที่แล่นไปบนรางของการรถไฟแห่งประเทศสเปน ก่อให้เกิดพลังงานตลอดเวลา ในแง่ของ เปีย เอเลตริซิด้าด

ประเด็นของเรา ไม่ใช่เรื่องวิศกรรมไฟฟ้า แต่เป็นการใช้ภาษาสเปน ซึ่งในสัปดาห์ก่อนได้เสนอวีดีโอ จากเวทีการพูดเท็ดทอล์ค วายาโดลิด เช่นเดียวกัน เสนอให้ท่านชมและฟังเหมือนวีดีโอมิวสิค เป็นการพูดของน้องคาร์โลส ก็อนซาเลซ พูดสเปนสำเนียงกาสติย่า โดยมีภาษาจีนกลางแทรกบ้าง ไพเราะทั้งสองภาษา ติดตามชมและฟังได้ที่ลิงก์ https://pricha123.blogspot.com/2016/12/blog-post.html

สำหรับครั้งนี้เสนอการพูดภาษาสเปนล้วน ๆ แบบเนื้อ ๆ ด้วยสำเนียงก้าสติย่า ซึ่งผู้พูด คุณแฟนันโด อารานา พูดได้คม ชัด และเร็ว พร้อมกับเสียง ร.เรือ ที่ระรัวอยู่ตลอดเวลา ราวกับตีระนาดอยู่บนเส้นเสียง ทำให้สำเนียงที่เปล่งออกมา น่าฟัง และหล่อ(หมายถึงเสียงพูด ไม่ใช่คนพูด)

เคยมีมิตรชาวอาร์เจนตินา บ่นให้ฟังว่า เขามาเที่ยวสเปนแล้วฟังคนสเปนพูดไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ต้องถามซ้ำ ย้ำอยู่เสมอ ทั้ง ๆ ที่เขาก็พูดภาษาสเปนเหมือนกัน แต่เนื่องจากคนสเปนพูดเร็วมาก ส่วนคนจากละตินอเมริกาจะพูดภาษาสเปน ด้วยท่วงทำนองที่ช้าลงกว่าคนสเปนในประเทศสเปน

ท้ายที่สุด ท่านผู้อ่านอาจสังเกตเห็นได้ไม่ยากว่า เสื้อกางเกงและรองเท้าที่คุณแฟนันโด สวมใส่อยู่นั้น ใหม่เอี่ยมแกะกล่องทั้งหมด แกคงจะซื้อมาเพื่อใส่มางานนี้โดยเฉพาะ ส่วนเรื่องการกู้คืนพลังงานที่มองไม่เห็น กับ เรื่องเปีย อิเลตริซิตี้ ที่พูดบนเวที แม้จะเป็นเรื่องวิชาการอันเคร่งเครียดก็จริงอยู่ แต่ถ้าท่านได้ฟังและชม ทำใจว่าเหมือนกำลังชมวีดีโอมิวสิค ท่านคงจะเห็นแล้วว่า ประเด็นเกี่ยวกับพลังงานในอนาคตประเด็นนี้ ถูกนำเสนอด้วยภาษาสเปนอย่างน่าฟัง และหล่อ(หมายถึงภาษาที่พูด ไม่ใช่ผู้พูด)

-------------------------------------------------------------------------------

วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ภาษาสเปน: วิจารณ์การพูด ของ น้องคาร์โลส ก็อนซาเลซ เรื่องภาษาจีนกลาง

น้องคนนี้ชื่อ คาร์โลส ก็อนซาเลซ เป็นคนสเปนที่รู้ภาษาจีนกลาง เขาได้รับเชิญให้พูดบนเวทีของ เท็ดทอล์ค ที่เมืองวายาโดลิด ประเทศสเปน Ted Youth@Valladolid




เขาเปิดฉากการพูดเรื่อง “ตำนานที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอักษรจีน”(Historias escondidas tras los caracteres del chino) ด้วยภาษาจีนกลางสำเนียง ปู๋ ทุ่ง ฮว่า ชัดถ้อยชัดคำและไพเราะ ก่อนที่จะพลิกพลิ้วชิวหา ไปเป็นภาษาสเปนสำเนียงก้าสติย่า อันถือกันว่าเป็นภาษาสเปนที่ดี เป็นภาษาของแคว้นก้าสติย่า ใจกลางประเทศสเปน อันเป็นสำเนียงที่แตกต่างจากภาษาสเปนสำเนียงละตินอเมริกา ที่เรามักจะได้ยินกันจากสหรัฐอเมริกาปัจจุบัน

สำหรับคนที่เคยเรียนภาษาจีนกลางมาบ้าง คำสองคำ และพูดสเปนได้ในระดับชีวิตประจำวันและระดับนักท่องเที่ยว อย่างเจ้าของบลอคนี้ การได้ฟังการเล่าตำนานเบื้องหลังอักษรจีน ด้วยภาษาสเปนสำเนียงก้าสติย่า(ผู้เขียนเองก็เรียนมาในแนวนั้น) ของน้อง คาร์โลส ก็อนซาเลซ จึงเพลิดเพลิน ถือได้ดังการบันเทิงชนิดหนึ่ง

ที่เวลาวีดีโอ 01:14 น้องคาร์โลส บอกว่า ยิ่งเรียนหนังสือจีนมากขึ้น เขายิ่งรักและยิ่งอยากเรียนมากขึ้นอีก

ผู้เขียน(วิจารณ์)เห็นว่า สำหรับมิตรสหายหลายท่าน ที่ไม่รู้ภาษาจีนกลางและภาษาสเปนเลย แต่เป็นมิตรรักนัก(ฟัง)เพลงจากหน้าเฟสบุคของผู้เขียน ท่านก็จะได้รับความเพลิดเพลินจากการฟังและชมรายการนี้ดุจจะบันเทิงคดี หรือมิวสิควีดีโอ จากสำเนียงและท่าทางการเล่าตำนานของน้อง คาร์โลส ก็อนซาเลซ  ดูเสมือนว่าท่านกำลังฟังเพลงอันไพเราะ ที่ยาวถึงประมาณสิบนาที  คงจะไม่บ่อยนัก ที่จะมีหน้าเฟสบุคภาษาไทยหรือเทศ  นำ “เพลง” สไตล์นี้มาแบ่งปันกันฟังกับท่าน.....

น้องคาร์โลส ยกตัวอย่างอักษรจีนหลาย ๆ คำ ที่สร้างขึ้นจากอักษรรากอันเก่าแก่ 
โดยเฉพาะอักษรที่เกี่ยวกับครอบครัวอันเป็นรากฐานของวัฒนธรรมและอารยธรรมจีน เช่น 
คำว่า “เที่ยะ”    ที่แปลว่า ครอบครัว (เวลาวีดีโอ 02:39) 

เวลาวีดีโอ 08:53  อีกตัวอย่างหนึ่ง  หรือ หมิง เทียน ที่แปลว่า พรุ่งนี้ ซึ่งประกอบด้วย 
คำแรก หมิง แปลว่า สดใส และคำหลัง เทียน ที่แปลว่า ฟ้า  รวมกันแปลตามตัวว่า ฟ้าสดใส 
แต่ตามภาษาหมายความถึง “พรุ่งนี้”

ที่เวลาวีดีโอ 06:27 เขาเขียนชื่อจีนของเขา ซึ่งแปลว่า มีจิตใจดี

ท้ายที่สุด ตอนจบการพูด น้องคาร์โลส ก็อนซาเลซ กล่าวขอบคุณผู้ฟังเป็นภาษาจีนกลางอันไพเราะ ในบัดนั้น-ผู้เขียนฉุกคิดขึ้นว่า ภาษาจีนกลางไพเราะอยู่ในตัวเอง หรือว่าในกรณีของเรานี้ ภาษาจีนกลางไพเราะ เพราะน้องคาร์โลส เป็นผู้พูด?


มีประเด็นแบ่งปันกันคิดกับท่านผู้อ่าน เพียงประเด็นนี้ประเด็นเดียว -ขอบคุณครับ

--------------------------------------------------------------------



วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

กงแซ ของอนุษกา ที่เมืองลิย็ง

สมัยที่ไปเรียนที่ฝรั่งเศสใหม่ ๆ เพื่อนบอกว่า วันนี้มี “กงแซ” จะไปชมไหม? โสตประสาทยังไม่คุ้นกับภาษาฝรั่งเศส  จึงย้อนถามไปว่า มีอะไรนะ  ถึงได้รู้ว่าเขามี “คอนเสิร์ต”

ใหม่ ๆ อีกเหมือนกันนักเรียนไทยอายุน้อยกว่า แต่อยู่ฝรั่งเศสมาก่อน เวียนมาอำว่า

          “พี่ ๆ ฝรั่งคนนั้น มันถามผมว่า ฟัก แล็ตอยู่ไหน?”

เขาพยายามเน้นคำว่า “ฟัก” ที่ไม่ได้หมายถึง ฟักแฟงแตงกวา แต่เป็นคำหยาบในภาษาอังกฤษ หมายถึง กิจกรรมเพศสัมพันธ์ สะกดว่า “FUCK”  อย่างไรในมหาวิทยาลัยฝรั่งเศส คำว่า ฟัก มาจาก fac ที่แปลว่า “คณะ”  คำว่า ฟัก แล็ต จึงหมายถึงคณะอักษรศาสตร์  เทียบเป็นภาษาอังกฤษก็คือ Faculty of Letters

โพสต์นี้ เชิญชวนท่านมิตรรักนักเพลงและแฟน ๆ ฟัง “กงแซ” ของ อนุษกา ศังกร ที่แสดงที่เมืองลิย็ง ประเทศฝรั่งเศส




ชื่อของนักดนตรีคลาสสิคภารตะผู้นี้ เขียนว่า अनुष्का शंकर อ่านว่า อะ-นุ-ช-กา  ชัง-ก-ระ  หรืออ่านแบบไทย โดยเทียบอักขระจากเทวนาครี ว่า อนุษกา ศังกร

คุณพ่อของเธอ คือ रवि शंकर ซึ่งคนไทยหลายคนเรียกชื่อเขาตามฝรั่งว่า ราวี แชงการ์  แต่ถ้าอ่านเทียบอักขระเทวนาครีเป็นไทย ก็จะออกเสียงได้ว่า รวิ ศังกร ศิลปินผู้นี้เป็นผู้บุกเบิกในการนำดนตรีคลาสสิคของภารตะ ไปสู่มิตรรักนัก(ฟัง)เพลงตะวันตกและตะวันออกนอกอินเดีย ตั้งแต่ยังฟังกันในหมู่ผู้ฟังชายขอบ(MARGINAL LISTENERS) จนกระทั่งได้เข้ามาสู่สายทางหลัก(main stream) ในปัจจุบัน

ตามประวัติเล่าว่า อนุษกา ศังกร ไม่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยเพราะต้องการทุ่มเทให้กับ
การเรียน ดนตรีคลาสสิคของอินเดียอย่างเดียว ซึ่งก็คือการเล่นพิณ सितार หรือ สิ ตาร์ 
ชื่อนี้หมายถึงพิณสามสาย แต่โดยทางปฏิบัติอาจมีสายได้ถึงเจ็ดสาย ผิดกับซอสามสายของ
ดนตรีไทย ที่จะมีได้แค่สามสายตามชื่อเท่านั้น
 
กงแซ ของ อนุษกา ทีเมืองลิย็ง ครั้งนี้น่าสนใจเป็นพิเศษตรงที่ตามประวัตินั้น เมื่อแรก 
รวิ ศังกร นำพิณสิตาร์มาเล่นในตะวันตก เขามาเปิดเวทีที่ฝรั่งเศสก่อน ก่อนที่จะไปเล่นให้
พวกฮิปปีฟังในคาลิฟฟอเนียร์ สหรัฐอเมริกา และโด่งดังในภายหลัง  อนุษกา พูดภาษา
ฝรั่งเศสได้ดังเธอจะได้พูดให้เราฟังระหว่างการแสดง กงแซ
 
เวลานี้ วัฒนธรรมฮิสปานิค หรือวัฒนธรรมสเปนมีความสำคัญขึ้นในสหรัฐฯ เพราะคนพูด
สเปนในสหรัฐฯมีจำนวนมาก ประเด็นเกี่ยวกับชุมชนฮิสปานิคได้กลายเป็นประเด็นหนึ่งใน
ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายน 2559 นี้
 
กงแซ ครั้งนี้มีฟลาเมงโกมาผสมผสาน ซึ่งทำให้มีรสชาติแปลกประหลาดสำหรับมิตรรัก
นักเพลงทั้งหลาย ฟลาเมงโกที่นำมาร้องกัน บางเพลงเก่าแก่นับร้อย ๆ ปี เช่น เพลง 
Si no puede verla. ภาษาสเปนอ่านว่า“ซิ โน ปวย เด แว ลา” หรือ “ถ้า ฉัน ไม่ ได้ พบ เธอ”  
ที่เวลาวีดีโอประมาณ 10:30 เพลงนี้นำมาจากบทกวีของอิสลามิก นิกายซุฟฟี สมัยโบราณ 
(ฟังจากที่อนุษกา ประกาศ ซึ่งเธอไม่ได้พูดคำว่า อิสลามิก ผู้เขียนเติมเอาเอง เธอพูดเพียง
ว่าเป็นกวีชาวซุฟฟี)
 
พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ศัพท์ภาษาสเปนที่ได้ยินบ่อย ๆ ในเนื้อเพลง ตลอดการแสดงกงแซ 
คือคำว่า “ไบ ลา”(bailar) กับคำว่า “ไบ ลัน โด”(bailando) ซึ่งเป็น present participle 
ทั้งสองคำนี้หมายถึง การร้องรำทำเพลง
 
และนั่นก็คือ แนว หรือ theme ของ กงแซ อนุษกาประกาศแต่ต้นเลยว่า จะเป็นกงแซ
ที่ว่าด้วยการร้องรำทำเพลง
 
แต่สำหรับบางท่าน อาจเห็นก็ได้ว่า เป็นการร่ายเวทย์ สวดมนตร์ อ้อนวอน และบูชาเทพเจ้า
บนสรวงสวรรค์ ไม่ใช่เป็นการบันเทิงอย่างเดียว เพราะฉะนั้นเมื่อจบ กงแซ บางคนอาจรู้สึกราว
กับได้ฟังธรรม  การมาฟังดนตรีเท่ากับมาฟังธรรม...
 
ธัมมัส สวนะ กาโล อยัมภทันตา...
 

ผู้เขียนเห็นว่า วงกระจิดริด และคุณอินทัช ตลอดจนแฟนเพลงของเขา น่าที่จะได้เรียนรู้อะไรบ้าง
ไม่มากก็น้อย จากกงแซครั้งนี้ เกี่ยวกับการนำดนตรีไทยออกไปสู่วงผู้ฟังที่กว้างขึ้น...


------------------------------------------------------------------
สนใจอ่าน วิจารณ์วงกระจิดริด เชิญตามลิงก์
https://pricha123.blogspot.com/2016/09/blog-post_18.html


 

วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

I’m no hengsuai-hengsuai professor of American history.

The name of Mr.Donald Trump had been attached at the Open Letter, posted on June 16, (BE 2559) 2016 as a tease, for good reason; so that I could say today November 30, 1916 that I know America and the American people far better than that professor Thongchai Winichakul knows Thailand and her people.

 

Nevertheless, I am no Hengsuai-hengsuai professor of American history at any Thai university.

Some years ago, about twelve years ago, I accompanied my then boss to see Mr.Trump in his New York office, on businesss. Of course, we only met with one of his managers, a great lady. The visit had been friendly and the business well taken care of. So, Mr. President Trump, you have a friend here in Chumphon province, Thailand.

Welcome to Chumphon, Mr.President Donald Trump!


Dan Baile
หลังสวน
ชุมพร

Nov 30, 16


---------------------------------------------------------------------

ลิงก์ที่อาจจะเกี่ยวข้อง possibly, related links


An Open Letter to French Ambassador to Thailand
จดหมายเปิดผนึก ถึงทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย
วิจารณ์การอภิปรายของ รองศาสตราจารย์ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

วิทยานิพนธ์ ของ นิตี๋ เอี่ยวหีนวงศ์
A critique of Professor Thongchai Winichakul’s quote

วิจารณ์คำพูดของ ศาสตราจารย์ ธงชัย วินิจจะกูล

I’m no hengsuai-hengsuai professor of American history.

วิจารณ์ มุกหอม วงศ์เทศ "มุสาแต่โดยเดา" ?


วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

เทวรูปพระนารายณ์ นครศรีธรรมราช

เทวรูป พระนารายณ์
จังหวัดนครศรีธรรมราช
-      บทความในชุด “แผ่นดินใต้
เมื่อ 1 พันปีก่อน สุโขทัย”








พระนารายณ์รูปนี้ มีอายุประมาณหนึ่งพันปีก่อนกรุงสุโขทัย  พบที่นครศรีธรรมราช นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ เห็นว่าเป็นรุ่นเดียวกับพระนารายณ์ ที่พบที่วัดศาลาทึง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดังได้เคยนำเสนอท่านผู้อ่านไปก่อนแล้ว  ซึ่งก็หมายความว่า เป็นสกุลศิลป์จากลุ่มแม่น้ำกฤษณา เช่นเดียวกัน แต่ว่า งานสร้างนั้นทำขึ้นในพื้นที่ภาคใต้เอง

เทวรูปพระนารายณ์รูปนี้ ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช ถูกจัดว่างไว้โดดเด่นดังภาพ(สี)





และยังมีเทวรูปพระนารายณ์อีกองค์หนึ่ง พบที่วัดพระเพลิง อำเภอนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี  ลักษณะการปั้น(แกะสลัก)เช่นเดียวกับสองรูปนี้

สิ่งที่ผู้เขียนจะสรุป จากเทวรูปเหล่านี้ก็คือ แนวคิดหรือคติพราหมณ์เรื่อง พระนารายณ์เป็นใหญ่ หรือ ไวษณพนิกายในศาสนาพราห์มณ์ (อ่านว่า ไว-สะ-นบ นิกาย) ภาษาสันสกฤตเขียนด้วยอักขระเทวนาครีว่า  वैष्णववाद  อ่านว่า ไว-ชะ-นาบ-วาด โดยที่เสียง น. นั้นเป็นเสียง น.ขึ้นจมูกหรือ ณ.เณร


นอกจากเทวรูปพระนารายณ์ ที่พบในจังหวัดสุราษฎร์ธานี กับที่จังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ก็ไม่ปรากฏว่าพบเทวรูปศิลปะชนิดเดียวกันนี้ ที่มีอายุประมาณหนึ่งพันปีก่อนสุโขทัย ที่ไหนอีกในประเทศไทย

เทวรูปเหล่านี้ นักประวัติศาสตร์และโบราณคดี มีความเห็นเป็นที่ยุติว่า ได้รับอิทธิพลศิลปะสกุลอมราวดี จากลุ่มแม่น้ำกฤษณา ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอินเดีย (อยู่ใกล้กับแม่น้ำโคทา-วารี)



เทวรูปเหล่านี้ แสดงถึงคติความเชื่อเรื่องพระนารายณ์เป็นใหญ่ (ไม่ได้เชื่อว่า พระศิวะเป็นใหญ่) ซึ่งกษัตริย์ราชวงศ์คุปตะองค์สำคัญ อันได้แก่ พระเจ้าจันทรคุปตะที่สอง เคารพนับถือ  และกษัตริย์ในราชวงศ์คุปตะส่วนมากก็จะนับถือศาสนาพราห์มณ์นิกายนี้  พระเจ้าจันทรคุปตะที่สอง ครองราชย์ ประมาณค.ศ. 380-415 มีพระนามอีกนามหนึ่งว่า “จันทรคุปตะ วิกรมาทิตย์”( चंद्रगुप्त विक्रमादित्य )

 

แนวคิดดังกล่าวสนับสนุนปรัชญาการเมืองแนว “ราชาเป็นสง่าแห่งแคว้น”  คือ สนับสนุนระบอบราชาธิปไตย  ตามความเชื่อที่ว่า พระนารายณ์(หรือ พระกฤษณะ หรือพระวิษณุ)จะอวตารของมาเป็นผู้ปกครอง การอวตารที่มีชื่อเสียง คืออวตารเป็น พระราม ในเรื่องรามเกียรติ

 

พาหนะของพระนารายณ์ คือ ครุฑ(गरुड) เพราะฉะนั้น ครุฑจึงศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย และได้กลายเป็นตราแผ่นดินของประเทศไทย และประเทศอินโดเนเซีย ในเวลาต่อมา  ซึ่งราชวงศ์ชวาสมัยโบราณได้รับนับถือเรื่องพระนารายณ์เป็นใหญ่เช่นเดียวกัน 

 

สรุปอีกทีว่า ศาสนาพราห์มณ์ลัทธิพระนารายณ์เป็นใหญ่ หรือไวษวณพนิกาย ได้เดินทางจากลุ่มแม่น้ำกฤษณา เข้ามาในแผ่นดินทีเป็นประเทศไทยปัจจุบัน โดยเข้ามาอยู่ในดินแดนภาคใต้ก่อน ประมาณจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลุ่มแม่น้ำตาปี และจังหวัดนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน  เมื่อประมาณหนึ่งพันปี ก่อนกรุงสุโขทัย ตามหลักฐานทางโบราณคดีเท่าที่พิสูจน์ได้ในเวลานี้ เราคงต้องเชื่ออย่างนี้ไปก่อน จนกว่าจะมีการค้นพบหลักฐานอื่นมาหักล้าง

 

 


ปรีชา
นาพญา
หลังสวน
ชุมพร

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

An open letter to all BBC listeners worldwide:

John Steinbeck criticized Mr. Jonathan Head, for his reports on Thailand.



จดหมายเปิดผนึก ถึงผู้ฟังบีบีซี ทั่วโลก: จอห์น สไตเบค วิจารณ์ การรายข่าวเกี่ยวกับประเทศไทยตลอดมาของ 

นายโจนาธาน เฮด



Let Mr.John Steinbeck enjoy freedom of speech and liberty of expression as follows…

          “On the long journey doubts were often my companions.”

 But doubts had not been companions of Mr.Jonathan Head’s reporting on Thailand.

“I’ve always admired those reporters who can descend on an area, talk to key people, ask key questions,  take samplings of opinions, and then set down an orderly report very like a road map.”

Explicitly Mr.John Steinbeck described to us how Mr.Jonathan Head had worked all along. But what Mr.John Steinbeck did not reveal was that the key this and key that and key those in the practice of Mr.Jonathan Head were all sh_t keys.

“I envy this technique and at the same time do not trust it as a mirror of reality.”

However, Mr.John Steinbeck did not beat around the bush, he blamed Mr.Jonathan Head right on…

“I feel that there are too many realities. What I set down here is true until someone else passes that way and rearranged the world in his own style. In literary criticism the critic has no choice but to make over the victim of his attention into something the size and shape of himself.”

Mr.John Steinbeck comfirmed that the size and shape of Mr.Jonathan Head is small indeed, despite himself being slightly overweighted.

“And in this report I do not fool myself into thinking I am dealing with constants. A long time ago I was in the ancient city of Prague and at the same time Joseph Alsop, the justly famous critic of places and events, was there.”

Now, Mr.John Steinbeck invoked a concrete example to hit Mr.Jonathan Head hard on the head. He had named names…

“He talked to informed people, officials, ambassadors; he read reports, even the fine print and figures, while I in my slipshod manner roved about with actors, gypsies, vagabonds. Joe and I flew home to America in the same plane, and on the way he told me about Prague, and his Prague had no relation to the city I had seen and heard.”

At this point Mr.John Steinbeck cautioned me about the difference between Thailand as reported by Mr.Jonathan Head and Thailand I have lived almost all my life.

“It just wasn’t the same place, and yet each of us was honest, neither one a liar, both pretty good observers by any standard, and we brought home two cities, two truths.”

Mr.John Steinbeck was wrong here because Mr.Jonathan Head is a liar, but not me.

“For this reason I cannot commend this account as an America that you will find. So much there is to see, but our afternoon eyes and surely our wearied evening eyes can report only a weary evening world.”

I am not a truculent commentator, only a critical listerner. I can commend Mr.Jonathan Head’s reports as Thailand that you will not find outside the BBC broadcasting studio in London. It is not Thailand with her bouddhist, hindu, and syncretic cultural tradition.

“Sunday morning in a Vermont town, my last day in New England, I shaved, dressed in a suit, polished my shoes whited my sepulcher, and looked for a church to attend.”

Has Mr.Jonathan Head ever attended a church in his poor life?


                                                                             Dan Baile
บ้านนาพญา
หลังสวน
ชุมพร
November 4, 2559

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

l'esperance, photo: mi cabana, Lacrimosa

l'esperance, เลส เป ร้องซ์, The Hope,
คณะ PCCB, France



rumah saya - mi cabana - my cottage, end of September 2559,
changing seasons: the sky is blue and the ray of the sun golden.




Lacrimosa, Weeping, by Mozart