open letter no 2

Chicago 2 why Chicago

Chicago 2 ทำไม ผมต้องดัดจริต ฟังวิทยุชิคาโก ด้วย? ๑.    ผมติดนิสัยชอบฟังวิทยุตปท. จากแดนไกลเป็นนิสัยมาแต่มัธยม เพื่อฝึกภาษา ประกอบกับมีผู...

วันอังคารที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2561

VillageLife: พูดจา น่าเกลียดกว่านี้ มีไหม?

         ในวงสนทนาและนินทาที่หมู่บ้านชนบทของผู้เขียนนั้น  บางทีสมาชิกก็พูดคุยกันแบบจัญไร น่าเกลียดสุด ๆ

          โปรดหยุดอ่าน ณ บัดนี้ สำหรับท่านผู้อ่านที่อาจจะระคายหูง่าย ๆ ทนไม่ได้จริง ๆ กับเรื่องราวแนวนี้  โปรดถอนตัว ชีวิตท่านจะดีขึ้น  อย่ามาเสียเวลากับเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจริง และเล่าตามจริง เรื่องนี้.....

          เรื่องมีว่า เย็นวันหนึ่งระหว่างการสนทนาอันเป็นกิจกรรมประจำของหมู่เรา  ชุมนุมกันที่หน้าเพิงขายของชำประจำหมู่บ้าน  ผู้คนเริ่มทยอยกันมา ทีละคนสองคน ยามย่ำสนธยา บางคนกินเหล้าโรง หรือเหล้าขาว ที่คุณพี่ผู้หญิงเจ้าของเพิงขายของชำดังกล่าว เธอแบ่งขาย บรรจุในขวดเครื่องดื่มชูกำลังขวดเล็ก ๆ ราคาถูกกว่าเบียร์หนึ่งกระป๋อง  บางคนจะซื้อโซดามาผสมกิน แต่บางคนกินเพียว ๆ เมาไวและเมาไม่เปลือง(กะตัง)  คนมีเงินเขาจะกินเบียร์ ราคากระป๋องละประมาณสี่สิบบาท  สุภาพสตรีทั้งหลายกินหมากเป็นพื้น  แต่ที่กินเหล้าก็มีบ้าง พวกเธอจะกินเหล้าดองยา  และกินสุภาพเรียบร้อย กรึ้บเดียวหมดจอก  ไม่นั่งถอง ร่ำสุราเพ้อเจ้อ พร่ำตอแหลกับชายทั้งหลาย  พวกเธอจะนั่งกินหมากฟังการสนทนา มีส่วนร่วมเมื่อจำเป็น เชื่ยนหมากเป็นของคุณพี่เจ้าของร้านค้า  พลูกับหมากผู้คนก็ช่วย ๆ กันถือติดไม้ติดมือมา  ผู้ชายก็กินหมากด้วยเหมือนกัน

          คุณพี่ผู้หญิงเจ้าของสถานที่ เธอไปทัวร์ต่างประเทศประจำทุกปี  ทั้งยุโรปและเอเชีย  ลูกสาวเธอซึ่งไปเอาผัวอยู่ที่ยุโรปพาไปเที่ยว  และยังมีเด็กสาวแถวบ้านเอาผัวยุโรปอีกสองคน อยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์กับที่อิตาลี  หลานสาวผู้เขียนมันเอาผัวออสเตรเลียคนหนึ่ง กับเอาผัวอัฟริกาตะวันตกอีกคนหนึ่ง  เขามาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่นี่  เพราะฉะนั้นชนบทบ้านเราค่อนข้างอินเตอร์

          เย็นวันหนึ่ง มีบ่าวอยู่คนหนึ่ง(ชายผู้หนึ่ง) เขาเป็นสมาชิกประจำวง  เก่าแก่กว่าผู้เขียนเสียอีก  เขาทำอาชีพรับจ้างอยู่ในเมือง(หลังสวน)  ทุกเย็นจะมานั่งร่ำสุราแต่ไม่อาละวาด ที่ชมรมหน้าร้านขายของชำจิ๋ว ๆ แห่งนี้
          เย็นวันนั้น ไม่ทราบว่าบ่าวคนนั้นเขาเป็นบ้าอะไรมา  จะอึดอัดขัดข้องใจมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ ๆ ก็เล่าในวงด้วยเสียงอันดังเรื่องที่ตัวเองท้องผูก  บอกว่าผูกสุด ๆ อย่างไม่เคยมาก่อน 
          พอได้เกริ่นเรื่องแล้ว พี่แกก็ลงรายละเอียด  ว่าทุกข์ทรมานมาก  มันบอกว่ามัน “เจ็บขี้”(ภาษาใต้ แปลว่า ปวดท้องอุจจาระ)  แต่มันอึไม่ออก.....

          ระหว่างที่บ่าวคนนั้นกำลังพรรณนาเหตุการณ์ ชัดแจ๋ว เหมือนถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิทัลชนิดพิกเซลสูง  คุณพี่เจ้าของร้านแกเบือนหน้าหนี คุณพี่แกไม่ขัดคอใคร  แต่แกคงรู้สึกยากที่จะทนฟัง  แกหันหน้ามาทางผู้เขียนซึ่งนั่งอยู่ปลายสุดในวงสนทนา  แกทำหน้าทำตาขอความช่วยเหลือจากผู้เขียน
          ช่วงนั้น ไอ้บ่าวคนนั้นมันเล่าถึงตอนที่มันกำลังเข้าไปนั่งส้วมพอดี  พูดด้วยเสียงดังฟังชัด กลั้วหัวเราะ เพลิดเพลิน สนุกสนาน หัวเราะร่วน ชอบใจตัวเองอยู่ผู้เดียว มีอาการมึนเมานิด ๆ  มันเล่าอุบาทว์ ๆ เพื่อแกล้งคนทั้งวง รวมทั้งผู้เขียนด้วย

          คุณพี่เจ้าของสถานที่ ไม่หันไปทางมันเลย แถมยิ่งแสดงสีหน้าบอกผู้เขียน คล้าย ๆ กับพูดว่า  ช่วยทำให้มันหุบปากหน่อย พ่อคุณ  หรืออะไรประมาณนั้น
          ทำให้ผู้เขียนต้องคิดหาวิธี ที่จะเบรคบ่าวผู้นั้น  เหมือนเด็กกำเข็มเย็บผ้าไว้กับมือ รอเจาะลูกโป่งเพื่อน ให้แตกดังโพละ

          ถึงตอนนั้น เขาเล่ามาถึงช่วงที่กำลังนั่งเบ่งอยู่ในส้วม  พูดซ้ำซากว่าอึไม่ออก ถึงขนาดต้องใช้นิ้วมือล้วงเข้าไป เพื่อควักออกมา......ดูมันเล่าละเอียด น่าเกลียด ขนาดนั้น

          ผู้เขียนได้ยินแล้ว ก็ได้จังหวะ ปะเหมาะเห็นช่องเบรคตรงนี้  จึงย้อนถามไปว่า :
“ตอนที่ล้วงเข้าไป  มึงแยงเข้าไปนิ้วเดียว หรือกี่นิ้ว อ่ะ?



                              
{คำชี้แจง เส้นประ....................==>>พื้นที่เชิงพาณิชย์ เติมเงินมา แล้วจะเติมเนื้อหาเต็ม
หากสงสัย โปรดอ่านคำชี้แจงที่ "ผมไม่ใช่ จิ้งหรีด นะครับ"