VillageLife: รักประชาธิปไตย ปานจะแหกตูดดม ตอน 1/4

รักประชาธิปไตย ตอน 1/4

กาละครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณ 350 ปีมาแล้วนับจากปี ค.ศ. 2018 นี้  คณะทูตจากฝรั่งเศสเดินทางเข้ามายังราชสำนักกรุงศรีอยุธยา  บุคลากรในคณะทูตโบราณสมัยนั้นจะมีนักบวชอยู่ด้วย  ไม่ได้มีแต่เฉพาะข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศอย่างในสมัยนี้  เพราะคณะทูตมีหน้าที่ ที่จะหาลู่ทางเผยแพร่ศาสนาด้วย  เป็นประเพณีปฏิบัติของเขาอย่างนั้นเอง เป็นการกระทำการ missionary  หรืออะไรประมาณนั้น

นักบวชในคณะทูตก็ทำหน้าที่ของท่าน  เล่าให้พระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาฟัง  ว่าโลกและมนุษย์ทั้งหลาย เกิดขึ้นมาได้อย่างไร  มหาเทพเป็นผู้สร้างขึ้นทั้งนั้น  และแต่แรกอยู่กันมืด ๆ มหาเทพท่านก็บอกว่า ขอให้แจ้งเถิด  แล้วโลกทั้งโลกก็แจ้ง

Let there be light: and there was light.

พระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาพระองค์นั้น ทรงรับฟังเรื่องราวโดยดุษณี  เห็นว่าคณะทูตและนักบวชเป็นคนดี จึงยินดีต้อนรับสู่กรุงศรีอยุธยา

VillageLife รักประชาธิปไตยปานจะแหกตูดดม ตอน 3/4 ระบอบประชาธิปไตย มี เหี้ย ๆ อย่างไรบ้าง?

รักประชาธิปไตย ตอน 3/4

สรุปจาก งานของปราชญ์ชาวฝรั่งเศส อะเล็กซี เดอ ต็อควิล

สมัยที่ผู้เขียนบลอคนี้ เรียนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา  เคยมีสหายผู้หนึ่งเรียนอยู่ในคณะรัฐศาสตร์ที่นั่น  เขาชอบเอ่ยชื่อ อะเล็กซี เดอ ต็อควิล ให้ผู้เขียนฟังบ่อย ๆ 

นักปรัชญาการเมืองชาวฝรั่งเศสผู้นี้  ได้เดินทางไปศึกษา และสังเกตการณ์ ระบอบประชาธิปไตยในอเมริกา  เมื่อปี 1831 และได้เขียนหนังสือปรัชญาการเมืองเล่มสำคัญ  ซึ่งยังใช้เป็นตำราศึกษากันในมหาวิทยาลัยชั้นดีในสหรัฐฯ  ชื่อ “ประชาธิปไตยในอเมริกา” – Democracy in America  ตีพิมพ์เมื่อ 1835  หนังสือเล่มนี้พูดเรื่องระบอบประชาธิปไตยหลายเรื่อง  แต่มีเรื่องสำคัญ ที่ผู้เขียนบลอค เห็นว่าน่าสนใจ  แต่ไม่ใคร่มีใครพูดกัน  คือเรื่องมุมมืดอันอัปลักษณ์ ของระบอบประชาธิปไตย

ไม่ใช่ “ยิ่งลักษณ์” นะครับ  เขาพูดเรื่อง “อัปลักษณ์”

อะเล็กซี เดอ ต็อควิล เกิดในตระกูลขุนนางต่างจังหวัด ในประเทศฝรั่งเศส  เขาเกิดภายหลังการปฏิวัติฝรั่งเศส  จึงถือว่าไม่มีประสบการณ์โดยตรงกับการปฏิวัติ  ไม่ได้มีชีวิตอยู่ในระบอบเก่า หรือ อ็องเซียง เรจีม – ancien régime 

VillageLife: รักประชาธิปไตย ปานจะแหกตูดดม ตอน 2/4 สหรัฐอเมริกาไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตย

รักประชาธิปไตย ปานจะแหกตูดดม ตอน 2/4

                                       สหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตย
 
เหตุผล?

ฟังจากอาจารย์ โฆศชัว ปะตริกาต(Joshua Petrikat) จะดีกว่า 

ย้อนความเดิม ในตอน ๑ เรื่องรักประชาธิปไตยปานจะห.ต.ด. ตามลิงก์ รักประชาธิปไตย ปานจะแหกตูดดม ตอน๑   เจ้าของบลอคนี้ ได้อ้างและอิง เศรษฐีชาวอังกฤษ นายอะแลน เด โบต็น(Alan de Boton) สำหรับบางท่านที่สงสัย ว่าทำไมคำว่า de จึงอ่านว่า “เด” ไม่อ่านว่า “เดอ” - ตามสำเนียงฝรั่งเศส  ตอบว่า de ตัวนี้เป็นภาษาสเปน ไม่ใช่ภาษาฝรั่งเศส จึงออกเสียงว่า “เด” ตามที่โคดเหง้าสักกะหลาด ของคุณ อะแลน เด โบต็อน ได้นามสกุลมาในสมัยโบราณ เมื่อครั้งที่พวกเขาอยู่ในสเปน ก่อนที่จะอพยพไปอยู่อีจิปต์ภายหลัง และหลังจากนั้นก็อพยพไปอยู่สวิสเซอร์แลนด์ และมาอยู่อังกฤษในปัจจุบัน  คุณอะแลน เด โบต็น แกไม่ได้ไปเปิดร้านขายผ้าไหมที่นั่น แกเขียนหนังสือและสร้างโรงเรียนที่ชื่อว่า School of Life

กลับมาเรื่องของเราจะดีกว่า อย่าแกว่งตีนหาเสี้ยน  อาจารย์ โฆศชัว ปะตริกาต ท่านจะมาอธิบายให้พวกเราฟังเป็นฉาก ๆ ว่า สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของท่านเอง ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างไรบ้าง จนเป็นเหตุให้ท่านต้องลุกขึ้นมารณรงค์ให้สหรัฐอเมริกา เป็นประชาธิปไตยเสียที โดยเรียกร้องผ่านองค์กรที่ตั้งขึ้นเพื่อการนี้ ชื่อ change.org