open letter no 2

Chicago 2 why Chicago

Chicago 2 ทำไม ผมต้องดัดจริต ฟังวิทยุชิคาโก ด้วย? ๑.    ผมติดนิสัยชอบฟังวิทยุตปท. จากแดนไกลเป็นนิสัยมาแต่มัธยม เพื่อฝึกภาษา ประกอบกับมีผู...

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2562

ที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ - ประสบการณ์ของผู้ป่วยคนหนึ่ง


ประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้น 7 อาคารหมอพร โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อันเป็นชั้นที่ถูกจัดไว้เป็นพื้นที่พักของผู้ป่วยสามัญ(ชาย)ทั้งชั้น จัดไว้เป็นห้องโถงโล่งตลอด หมายความว่าไม่มีผู้ป่วยที่อยู่ห้องพิเศษอยู่บนชั้นนี้ ผู้เขียนจะมาพักรอการผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ (วันหนึ่งตอนปลายเดือนเมษายน 2562) และจะนอนพักฟื้นดูอาการหลังการผ่าตัดอยู่ที่นั่น ในฐานะผู้ป่วยสามัญกับเขาผู้หนึ่ง ผู้เขียนใช้สิทธิการรักษาพยาบาลตามระบบประกันสังคม อันเป็นระบบที่ประสงค์อยากให้มีขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อครั้งผู้เขียนยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อน ๆ นักศึกษารุ่นเดียวกันหลายคน เป็นพยานได้





เพราะผู้ป่วยมีจำนวนมาก ห้องโถงที่พักรองรับได้ไม่พอ เตียงผู้ป่วยจึงต้องล้นออกมาอยู่หน้าลิฟต์ ซึ่งมีเตียงผู้ป่วยวางอยู่แปดเตียง เรื่องความหนาแน่นของโรงพยาบาลหลวงแห่งนี้นั้น ผู้เขียนเคยได้ยินมาก่อน และไม่รู้สึกประหลาดใจแต่ประการใด เมื่อได้มาเห็นกับตา

ข้อเขียนเรื่องนี้เขียนขึ้นจากประสบการณ์ ที่ได้ประสบพบเห็นด้วยตนเอง รับรู้ด้วยอายตนะทั้งหก หูตาจมูกลิ้นกายใจ ได้พยายามที่จะไม่เจือสมความชอบ-ไม่ชอบ ความเห็นว่าดี-เห็นว่าไม่ดี อันเป็นความเห็นส่วนตัว  แต่กระนั้น ผู้เขียนก็เป็นสามัญมนุษย์ ปุถุชนคนธรรมดา ไม่ใช่พระโสดาบัน อคติคงจะมีปนอยู่บ้างไม่มากก็น้อย ต้องขออภัยท่านที่เกี่ยวข้องไว้ล่วงหน้า

ผู้เขียนเดินตามช่องว่างระหว่างเตียงผู้ป่วยหน้าลิฟต์ เพื่อเลี้ยวเข้าห้องโถงที่พักผู้ป่วย อันเป็นพื้นที่หลักของชั้นนั้น ซึ่งมีที่ทำงานของเจ้าหน้าที่กันไว้เฉพาะ หลังจากยื่นเอกสารแล้วพยาบาลหรือบุคลากรในกลุ่มพยาบาลคนหนึ่ง นำผู้เขียนออกจากห้องโถงที่มีผู้ป่วยนอนอยู่เต็ม กลับออกมายังเตียงว่างหน้าลิฟต์เตียงหนึ่ง เธอตบมือลงกับที่นอนแล้วบอกผู้เขียนว่า “อยู่ข้างนอกนี่แหละ สบายดี”

ผู้เขียนรับปากว่า “ครับ ๆ ขอบคุณครับ” แล้วจัดแจงเก็บเป้เข้าไว้ในตู้เล็กที่ข้างหัวเตียงผู้ป่วย เปลี่ยนเสื้อผ้ามาสวมเสื้อผ้าโรงพยาบาล รื้ออุปกรณ์ในเป้ที่เตรียมมา มี แท็บเล็ต(เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก) สายชาร์จแท็บเล็ตและชาร์จโทรศัพท์ สบู่ยาสีฟัน เป็นอาทิ ออกมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง ซึ่งมีถาดที่มีโถน้ำดื่มกับแก้วปลาสติคของโรงพยาบาล วางไว้ให้

จัดแจงแล้วเสร็จผู้เขียนก็ขึ้นเอนหลังลงนอน มองไปเตียงซ้ายมือเห็นผู้ป่วยเป็นเด็กเล็ก จึงถามมารดาที่เฝ้าไข้ ทราบว่าอยู่ชั้นประถมสาม ขวามือเป็นผู้ใหญ่ทักทายแล้วได้ความว่า มาผ่าใส้ติ่ง ช่วงนั้นเป็นเวลาบ่ายคล้อย แดดส่องผ่านหน้าต่างกระจก สาดลงบนเตียงผู้เขียนพอดี อบอุ่นครับอบอุ่น ได้รับความอบอุ่นอย่างแรง จากแสงแดดปักษ์ใต้ ยามบ่ายเดือนเมษายน ก็ลองคิดดูแล้วกัน แต่โดยสรุปก็รู้สึกสบายดีทุกอย่าง ตามที่พยาบาลบอก ไม่มีอะไรจะต้องบ่น คุณบ่นพระอาทิตย์ได้หรือ นี่แนะดวงตะวันหรี่แสงลงหน่อยเด่ะ - บ่นได้หรือ?

มองไปด้านเหนือศีรษะ(เขียนคำนี้เพื่อเลี่ยงคำว่า หัวนอน เพราะ หัวนอน ในภาษาใต้หมายถึง ทิศใต้) ซึ่งเป็นทิศตะวันตก - ความประโยคก่อนซับซ้อนนะ มันมีคำว่า เหนือ คำว่า ตะวันตก  ทั้งนี้โดยแฝงคำว่า หัวนอน กับคำว่า ทิศใต้ อยู่ด้วย  คงจะมีแต่คนรู้ภาษาใต้เท่านั้นที่เขียนประโยคนั้นได้ ซึ่งมีทิศแฝงอยู่ถึงสามทิศ อ่านแล้วมีสิทธิงงฉิบหายเลย ไม่รู้ว่ากำลังจะชี้ไปทิศไหน – ทาง ปละตก  ภาษาใต้แปลว่า ทิศตะวันตก จะแลเห็นทิวเขายาวเหยียดเป็นพืดโดยตลอด ในแนวเหนือ-ใต้ ทิวเขานั้นแม้จะอยู่ไกลมาก แต่ก็แลเห็นได้ว่าซ้อนเหลื่อมกันอย่างสลับซับซ้อน ไม่ได้มีทิวเดียว สันเขาอันทอดทาบขอบฟ้ายาวเหยียดไร้ช่องว่างนั้น คือที่กั้นแดนระหว่างจังหวัดชุมพรกับจังหวัดระนอง และเป็นขุนเขาอันเป็นแกนของคาบสมุทร์ ที่ตั้งของภาคใต้ของประเทศไทย

สรุปได้ว่า นอนอยู่หน้าลิฟต์ วิวดีครับวิวดี ซึ่งญาติโยมที่นอนครางฮือ ๆ ร่วมร้อยชีวิตอยู่ด้านใน ในห้องโถงโรงนอนของคนไข้สามัญ ล้วนแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ชมวิวงาม ๆ อย่างนั้น - เสียใจด้วยนะพวก คนเรามันวาสนาไม่เท่ากัน ที่วาสนาดีก็มี ที่วาสนาไม่ค่อยจะดีก็มี

[ยังมีต่อ.....]


แต่เวลาจะเข้าห้องน้ำ ผู้เขียนต้องเดินเข้าไปในห้องโถงโรงนอน เดินไปตามทางที่ใช้แบ่งเขต ระหว่างเขตที่กันไว้เป็นสำนักงานแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ อยู่ทางซ้ายมือ กับเขตผู้ป่วยอยู่ทางขวามือ พื้นที่สำหรับคนไข้แบ่งเป็นล็อค ๆ จัดล็อคตามสภาพอาการป่วยไข้ เช่น ผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยกึ่งหนัก ผู้ป่วยเฝ้าระวัง เป็นต้น ชื่อเหล่านี้ผู้เขียนอาจจำไม่ได้อย่างถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ ในแต่ละล็อค มีเตียงผู้ป่วยวางเป็นแถว ล็อคละสองแถว มีช่องทางเดินและเพื่อการพยาบาลอยู่ตรงกลาง สรุปว่า ทางเดินไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ปลายสุดนั้น ด้านซ้ายมือเป็นเขตที่ทำการของเจ้าหน้าที่ ด้านขวามือแบ่งแดนพื้นที่ผู้ป่วยไว้เป็นล็อค ๆ

เวลาเดินไปเข้าห้องน้ำ ผู้เขียนจะเดินอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว สายตาเหลือบลงมองพื้นทางเดิน จะไม่พยายามมองเข้าไปตามล็อคที่วางเตียงคนไข้ เพราะไม่อยากรู้ อยากดู อยากเห็นอะไรที่นั่น เพราะคิดว่าเต็มไปด้วยความทุกข์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทั้งนั้น ไม่อยากจะดูหรอก ตัวเองก็เป็นผู้ป่วยคนหนึ่งเหมือนกัน อย่างไรก็ดี บางทีก็อดไม่ได้ที่สายตาจะเหลือบแลไปในนั้น แต่ก็สามารถควบคุมสติอารมณ์ได้ ไม่ให้สายตาโฟกัสลงบนใบหน้าผู้ใดเลย ไม่ต้องการจะจดจำหน้าใครทั้งนั้น เรื่องนี้สามารถทำสำเร็จ จนบัดนี้นึกหน้าเพื่อนผู้ป่วยเหล่านั้นไม่ออกเลยสักคน แม้แต่สภาพของพวกเขาจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ได้โฟกัสไปเห็น ยกเว้นรายเดียวที่อยู่ริมทางเดิน รายนี้อดไม่ได้ที่จะต้องมอง และ.....โฟกัส

ครั้งแรก ผู้เขียนแปลกใจว่า ทำไมคนไข้บนเตียงนั้นตัวสั้นเพียงครึ่งที่นอน เป็นคนไข้เด็กหรืออย่างไร กวาดสายตาดูผาด ๆ ไม่ใช่เด็ก ลักษณะเป็นผู้ใหญ่ แต่สงสัยว่าทำไมตัวสั้นแค่ครึ่งเตียง ปรากฏว่า เขาถูกตัดขาทั้งสองข้าง เข้าใจว่าน่าจะถูกตัดเลยหัวเข่าขึ้นมา ตัวทั้งตัวจึงดูเสมือนเหลือครึ่งเดียว – เฉพาะร่างกายท่อนบน ผู้เขียนทำตามัวให้แลไม่เห็นหน้าเขา จึงจำหน้าเขาไม่ได้ และประมาณอายุไม่ถูก

เรื่องการใช้ห้องน้ำนั้น ในวันต่อมาผู้เขียนได้รู้ว่าตอนเช้าการจราจรหนาแน่น ต้องยืนรอห้องว่าง จึงพยายามเลี่ยงเวลาดังกล่าว ด้วยการไปให้เช้าขึ้นหรือรอให้สายหน่อย ก็ได้ใช้ห้องน้ำที่โล่งและว่าง ห้องน้ำของเขาแบ่งเป็นห้องอาบน้ำอย่างเดียวสองหรือสามห้อง เป็นห้องส้วมอีกสองหรือสามห้อง กับมีบริเวณอ่างล้างหน้าติดกับผนังด้านหนึ่ง ห้องทั้งห้องใหญ่โตกว้างขวาง ไม่ได้คับแคบน่าอึดอัดแต่ประการใดเลย

กลับมาที่เตียงผู้ป่วย อันเป็นที่สถิตของตัวเอง ในโลกอันกว้างใหญ่ของผู้ป่วยสามัญ ซึ่งกินเนื้อที่ชั้นเจ็ดทั้งชั้น ผู้เขียนรื้อเอาสายหูฟังมาเสียบเข้ากับเครื่องแท็บเล็ต เพื่อไม่ให้เสียงดังออกไปรบกวนผู้ป่วยคนอื่น เครื่องคอมฯชนิดแท็บเล็ตนั้น หนังตะลุงน้องเดียว(ตาบอด)ซึ่งเป็นหนังดังที่สุดในภาคใต้ทุกวันนี้ เคยนำมาเรียกล้อเป็นสำเนียงภาษาใต้ว่าเครื่อง ถับ-แหล็ด ซึ่งสร้างความตลกขบขันแก่ผู้ชม เพราะมีความหมายแปลได้ว่า นั่งทับลูกอัณฑะของตัวเอง              

เครื่องคอมพิวเตอร์ชนิดนั่งทับลูกอัณฑะของตัวเอง หรือเครื่องถับ-แหล็ดเครื่องนี้ - มิตรที่แสนดีที่กรุงเทพฯ คุณสุรพล-คุณอภิรดี ตันตราภรณ์ ให้กะตังไปซื้อ พร้อมกับให้เงินซื้อแล็บท็อปเครื่องหนึ่งด้วย ที่จริงขอไปว่า ขอเครื่องคอมฯวางตักชนิดมือสองสักเครื่องหนึ่งเถอะ ท่านก็ดุเอาว่า ไม่ต้องหรอก - ไปซื้อเครื่องใหม่เลยดีกว่า  ขอขอบพระคุณทั้งสองท่าน

[ยังมีต่อ.....]



ผู้เขียนเตรียมตัวมานอนโรงพยาบาล ด้วยการเสาะหาสะสม รายการยูทูบและพ็อดคาสต์สองสามประเภทที่ชอบชมและฟัง เก็บไว้ในเม็มมอรีการ์ดของแท็บเล็ต งานนี้ทำล่วงหน้าหลายวัน เช่นหารายการประเภทสุขภาพกายและใจ รายการเกี่ยวกับวรรณกรรมและชีวิต ตลอดจนรายการประเภท “self-help” ที่ฟังแล้วชอบ

หลวงวิจิตรวาทการ เป็นคนแรกที่นำงานประเภท “self-help” แบบตะวันตก เข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทย ทุกวันนี้นั้นบรรดาบรมครู “self-help” ทั้งหลายในตะวันตก ซึ่งส่วนมากอยู่ในสหรัฐอเมริกา ในฝรั่งเศสก็พอมีบ้าง ท่านจะมีเว็บไซด์หรือช่องยูทูบ เผยแพร่วีดีโอฟรี หรือให้ดาวน์โหลดโดยต้องจ่ายสตางค์

ราชาของครู “selp-help”ในสหรัฐฯ คือนายโทนี โรบิน ถึงแม้ผู้เขียนจะฟังครูคนนี้แล้วไม่ติดใจ แต่ก็ทึ่งในความมีชื่อเสียงของแก กะประมาณเอาเองว่าแกน่าจะสร้างทรัพย์สินจากงานนี้ ขึ้นมาได้นับร้อยล้านดอลลาร์ หรืออาจจะเป็นพันล้านดอลลาร์ก็ได้ใครจะรู้ เพราะเคยได้ฟังอาจารย์ “self-help” คนหนึ่งที่มีชื่อเสียงไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของ นายโทนี โรบิน เปิดเผยว่า ตนหาเงินจากงานนี้ได้สามสิบห้าล้านดอลลาร์

อาจารย์ด้านนี้ที่ผู้เขียนชอบใจ เป็นคนอเมริกันเชื้อสายรัสเซีย คนหนุ่มหัวล้านเหน่ง แม้เคยคิดจะเลิกฟังแกหลายหนแล้ว เพราะเห็นว่าบางทีแกงี่เง่า ประสาท เพี้ยน ๆ เสียสติ ซึ่งตัวแกเองก็ยอมรับว่าตนเป็นอย่างนั้น แต่ผู้เขียนก็ยังคงเสพติด เลิกฟังไม่สำเร็จ ครั้นจะมาเข้าโรงพยาบาลก็ได้โหลดรายการของแกนับสิบ ๆ รายการไว้ในแท็บเล็ต ท่านใดสนใจงานเชิง self-help ของอาจารย์ลีโอ ผู้นี้ คลิกเยือนเว็บของท่านได้ที่ Actualized.org

รายการเกี่ยวกับวรรณกรรมและชีวิต โหลดมาจากเว็บของสถานีวิทยุบีบีซี - คือรายการ World Book Club และจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด - คือรายการ the Entitled Opinion และจากแหล่งอื่น ๆ  ส่วนที่เกี่ยวกับสุขภาพ ก็โหลดรายการเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพประจำตัว และเรื่องการอยู่ดีกินดี(well-being)โดยทั่วไป ตลอดจนรายการช่วยทำสมาธิ กับเทดทอล์คอันโด่งดังทั่วโลก ที่มีแผนกสุขภาพเป็นภาษาอังกฤษอยู่ใน iTunes ชื่อ TEDtalk Health ซึ่งน่าฟัง และมีเวอร์ชันฝรั่งเศสด้วย ชื่อ TEDtalk Santé

นอนฟังแท็บเล็ตเพลิน ๆ สาวที่มาเฝ้าไข้คุณพ่ออยู่เตียงข้าง ๆ เอ่ยถามผู้เขียนว่า น้า ๆ คนเฝ้าไข้ อยู่ไหนอ่ะ?

ดูสิ - เธอไม่สนใจคนไข้ เธอกลับสนใจคนเฝ้าไข้ อันหมายถึงผู้ดูแลผู้ป่วย ซึ่งทางโรงพยาบาลอนุญาตให้มานอนเฝ้าไข้ได้รายละหนึ่งคน ผู้เขียนไม่ได้ขอร้องให้ใครมาอยู่เป็นเพื่อน เพราะเห็นว่าสำหรับงานนี้ยังพึ่งตัวเองได้อยู่ ถ้าเป็นกรณีผ่าตัดใหญ่ประเภท “งานเข้า” ก็เคยให้ญาติมาเฝ้า

ผู้เขียนได้ตอบกลับไปว่า คนเฝ้าไข้ไม่มีหรอกครับ นอนเฝ้าตัวเอง!

เธออึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วพูดเป็นทำนองชมเปาะ ว่า เก่งนะ

ผู้เขียนไม่รับหรือปฏิเสธ ปล่อยการสนทนาทิ้งค้างไว้แค่นั้น - ให้เป็นปริศนา สุดแล้วแต่คู่สนทนาจะคิดเอาเองว่า เก่ง-ไม่เก่ง

จริง ๆ แล้ว ผู้เขียนไม่ได้เก่งกาจสามารถอะไรเลย เพราะเวลาจำเป็นจริง ๆ ก็จะร้องโอดโอยให้คนช่วยมั่วหมด และการสร้างปริศนาครั้งนี้ก็ไม่ได้ต้องการโอ่อย่างแยบยลเพื่อ อวดเก่ง  เพียงแต่ประสงค์จะ กวนตีน คู่สนทนาเล่นนิดหน่อย แก้เซ็ง เท่านั้นเอง – ตามนิสัยหรือความเคยชิน (โปรดอย่าใช้คำว่า สันดาน กับผู้เขียนนะครับ ขออภัย - ประเดี๋ยวท่านจะหยาบโดยไม่ได้ตั้งใจ)

[ยังมีต่อ.....]



พื้นที่หน้าลิฟต์ น่าจะเป็นบริเวณที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุด เกือบจะร้อยทั้งร้อยของผู้คนที่มีกิจธุระบนชั้นผู้ป่วยสามัญเนื่องจากการผ่าตัดชั้นนี้ ซึ่งมีอยู่นับร้อยเตียง จะต้องเดินเข้าออกจากลิฟต์ซึ่งเป็นลิฟต์คู่ ผู้เขียนได้นอนแลเห็นเป็นสักขีพยาน ต่อเหตุการณ์นานาชนิด ซึ่งผู้ป่วยที่นอนอยู่ด้านใน ไม่มีโอกาสจะได้พบเห็น เพราะว่าพวกเขาวาสนาน้อยดังกล่าวแล้ว

เริ่มตั้งแต่เช้า ก็จะได้ยินเสียงประกาศทางเครื่องกระจายเสียง อันเป็นเครื่องมือสื่อสารสำคัญภายในโรงพยาบาล เช่น ประกาศเปิดเพลงชาติ(ปลุกใจผู้ป่วย?) ประกาศขอให้เจ้าของรถทะเบียนนั้นทะเบียนนี้ ไปเลื่อนรถออกจากพื้นที่หวงห้าม ประกาศขอความร่วมมืออย่าซื้ออาหารที่มีผู้แอบนำเข้ามาขายบนอาคาร ซึ่งอาจเป็นอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ประกาศห้ามคนเข้ามาขายของในโรงพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น ฝ่ายบริหารโรงพยาบาลช่างหาผู้ประกาศมาได้ ชนิดที่เสียงนุ่มนวล ชวนให้น่าเชื่อฟังเป็นอย่างดี

ผู้เขียนเห็นคนลักลอบเข้ามาขายอาหาร เธอเปิดประตูลิฟต์ออกมา พร้อมกับตะกร้าปลาสติคชนิดก้นลึก บรรจุของได้มากแต่แลดูเล็กไม่ใหญ่เกะกะ เธอปักหลักอยู่หน้าลิฟต์ ไม่ได้เดินเร่เพ่นพ่านไปไหน ผู้คนทั้งหลายที่ไม่ให้ความร่วมมือกับคำประกาศของโรงพยาบาล เช่น พวกคนเฝ้าไข้หรือผู้ป่วยที่อาการไม่หนัก พากันไปรุมซื้ออาหารที่นั่น คนขายของจะขายหมดภายในเวลารวดเร็ว และหายตัวไปอย่างลึกลับ ไม่ทันได้ดู ไม่รู้ว่าหายไปไหน อย่างไร

ผู้เขียนสงสัยใคร่รู้กิจกรรมลึกลับดังกล่าวนั้น จึงตัดสินใจเข้าไปสังเกตการณ์ใกล้ชิด ซึ่งท่านผู้อ่านผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย อาจคิดว่า คงจะเป็นเพราะผู้เขียนเห็นว่าตลาดผู้ป่วยสามัญ บนชั้นเจ็ดโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ประกอบด้วยคนจำนวนมากรวมอยู่ในที่เดียวกัน เป็น niche ด้านการตลาด ที่สามารถจะสร้างยอดขายได้ภายในพริบตา ผู้เขียนถึงได้อยากรู้ภาคปฏิบัติที่แท้จริง เผื่อว่าเมื่อหายป่วยไข้แล้ว จะดอดกลับเข้ามาทำมาหากินกับเขาบ้าง เช่น หิ้วตะกร้ามาขายหนังสือเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น

มิใช่เช่นนั้น โปรดอย่ามองโลกแง่ร้ายเกินไป ผู้เขียนสงสัยตามจริตเสือกอยากรู้อยากเห็นของตัวเองเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรอื่น ดังนั้น เช้าวันหนี่งขณะที่คนกำลังมะรุมมะตุ้มอยู่กับแม่ค้าหน้าลิฟต์ ผู้เขียนก็พยุงตัวลุกจากเตียงผู้ป่วยที่นอนอยู่ เดินเข้าไปขอมีส่วนร่วมด้วยช่วยกัน พบว่าอาหารที่เขานำมาขายมีหลายชนิดและห่อมาเรียบร้อย เช่น ก๋วยเตี๋ยวผัดแบบชาวใต้ ที่ผัดด้วยน้ำพริกแกง คล้ายน้ำพริกแกงขนมจีน - ซึ่งแม่ผู้เขียนก็ชอบผัด นอกนั้นก็มีข้าวผัดกะเพรา หรือข้าวไข่เจียว เป็นอาทิ กับมีขนมค่อม(ขนมใส่ใส้) และข้าวเหนียวหน้าไข่(ข้าวเหนียวหน้าสังขยา) และอื่น ๆ

เขาขายในราคาย่อมเยา อาหารห่อละยี่สิบบาท ส่วนขนมขายสิบบาท ผู้เขียนซื้อข้าวผัดกะเพราะห่อหนึ่ง กับซื้อข้าวเหนียวหน้าไข่(สังขยา) แม่ค้าถามผู้เขียนอย่างมืออาชีพและห่วงใยว่า เพิ่งผ่าตัดมาหรือเปล่า ถ้าเพิ่งผ่าตัดกินเหนียว(ข้าวเหนียว)ไม่ได้นะ.....ซึ่งผู้เขียนก็ตอแหลตอบไปว่า ยังไม่ได้ผ่าหรอก ซึ่งแม่ค้าก็เชื่อ ก็เลยขายข้าวเหนียวหน้าสังขยาให้ กินอร่อยมาก - ภาษาใต้ว่า กิ่น หร้อย - กิ่น หร้อย

กลับมานั่งที่เตียงผู้ป่วย ผู้เขียนค่อย ๆ แกะห่อข้าวผัดกะเพราออกมากิน เนื้อสัตว์ที่ผัดกะเพราเขาใส่ไว้ในถุงปลาสติคเล็ก ๆ วางอยู่บนข้าวสวย ผู้เขียนบรรจงเทผัดกะเพราที่ว่านั่นออกจากถุงปลาสติคเล็ก ราดลงบนข้าวสวย กิจกรรมนี้นั่งทำอยู่โดดเดี่ยวลำพังที่เตียงผู้ป่วย ไม่พูดไม่จากับใครเพราะไม่มีใครจะพูดด้วย

เนื้อสัตว์ที่เขามาผัดกะเพรา ดูไม่ออกว่าเป็นเนื้อสัตว์ชนิดใด หมูไก่หรือวัวควาย หรือลิงค่างบ่างชะนี ถ้าเป็นเนื้อค่างบางคนอาจนึกรังเกียจ - ไม่กิน ด้วยเหตุที่ว่ามันเป็นลิงที่ดูคล้ายคนมากที่สุดในป่าภาคใต้ น้าเคยผัดเนื้อค่างมาให้ผู้เขียนกิน เนื้อมันจะมีสีออกหม่น ๆ ดำ ๆ ผู้เขียนไม่รังเกียจที่จะกินเนื้อค่าง ท่านผู้อ่านที่มองโลกในแง่ร้ายบางท่าน อาจสรุปความต่อเอาเองตามอำเภอใจว่า ผู้เขียนน่าจะมีรสนิยมในการบริโภค เข้าข่ายมนุษย์กินคน

เพื่อนคนหนึ่ง นิ้วมือซ้ายด้วนหมดสี่นิ้ว เหลือแต่หัวแม่มือ เพราะโดนใบมีดอุตสาหกรรมตัดขาด เขาเล่าให้ฟังว่า สมัยที่มือยังดีอยู่ เขาเคยเข้าป่ายิงค่างตัวหนึ่งตกต้นไม้ แต่มันยังไม่ตาย เขากับสหายที่เที่ยวป่าด้วยกัน ช่วยกันจับค่างตัวนั้นมัดมือมัดตีนเข้ากับไม้ที่ตัดมาทำคานหาม พวกเขาหาบค่างออกจากป่า ระหว่างทางในป่า มือข้างหนึ่งของค่างตัวนั้นหลุดจากคานหาม และปัดป่ายออกไปฉวย และพยายามจะดึงรั้งยึดเถาวัลย์กับกิ่งไม้ข้างทางมาตลอด มันคงจะไม่อยากออกจากป่าซึ่งก็คือบ้านของมัน เพื่อนผู้เขียนเล่าว่าเขากำลังเหนื่อย และรู้สึกรำคาญกับการพยายามยึดฉวยกิ่งไม้ข้างทางของค่างตัวนั้นมาก เขาจึงเกิดโมหะจริต และด้วยแรงบันดาลโทสะ เงื้อมีดพร้าประจำตัว ฟันมือค่างสุดแรงจนมือค่างขาด

ต่อมาภายหลัง เขาไปทำงานในโรงเลื่อยจักร ซึ่งมีใบเลื่อยอุตสาหกรรมที่หมุนติ้ว วันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุ ใบมีดอุตสาหกรรมที่โรงเลื่อย ตัดนิ้วมือซ้ายของเขาขาดไปสี่นิ้ว เขาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ขณะที่ใบเลื่อยจักรกำลังหั่นนิ้วมือ แวบแรกในบัดเดี๋ยวนั้น เขาหวนนึกถึงค่างตัวนั้น.....

[ยังมีต่อ.....]




วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2562

VillageLife วิวทะเล ที่สวยที่สุด ที่เคยได้ชม


วีดีโอ วิวทะเล สร้างสวยที่สุด ที่เคยได้ดูมา
คนถ่ายทำ คือ น้องไข่ โอเรียน เอชเชล  Orion Eshel



น้องไข่คนนี้ อยู่กับพ่อแม่ที่ ประเทศคอสตา ริกา
ถิ่นฐานเดิมอยู่นิวยอร์ค คุณแม่มีน้องไข่เมื่ออายุมากแล้ว
คือสามสิบเศษ และดูเหมือนจะมีลูกคนเดียว
คุณพ่อคุณแม่น้องไข่ ท่าทางเป็นคนมีกะตัง
แต่ไม่ใช่มหาเศรษฐี หากว่า น่าจะเป็นพวก professional ที่มั่งคั่งร่ำรวย

ครอบครัวนี้เป็นคนยิว น้องไข่ถึงได้ไปเที่ยวและสร้างวีดีโอ
เรื่องเมืองเจรูซาเลม คาบสมุทร์ซีนาย และทะเลแดง

น้องไข่ โอเรียน ชอบเล่นดนตรีด้วย
เขาเล่นเพลงประกอบวีดีโอเรื่องนี้ ด้วยตนเอง ชื่อเพลง autumn leaves

เพลงนี้ ต้นฉบับเป็นเพลงฝรั่งเศส ชื่อ les feuilles mortes – ใบไม้ที่ตายไป
น้องไข่จะยืดจังหวะด้วย หรือจะอย่างไรก็ไม่ทราบ
ฟังแล้วแทบจับไม่ได้ว่า คือ autumn leaves
แต่ดนตรีของเขา ก็เข้ากับวีดีโอได้ดี

ได้นำ les feuilles mortes ต้นฉบับฝรั่งเศส เวอร์ชันที่ อีฟ ม็งต็ง ร้อง
มาให้ฟังกันด้วย



ขอความสุขสวัสดี จงมีแก่ทุกท่าน ทั้งที่ชอบทะเลและไม่ชอบทะเล



แดง ใบเล่ aka ปรีชา ทิวะหุต
บ้านนาพญา หลังสวน ชุมพร
25 เมษายน 2562