open letter no 2

Chicago 2 why Chicago

Chicago 2 ทำไม ผมต้องดัดจริต ฟังวิทยุชิคาโก ด้วย? ๑.    ผมติดนิสัยชอบฟังวิทยุตปท. จากแดนไกลเป็นนิสัยมาแต่มัธยม เพื่อฝึกภาษา ประกอบกับมีผู...

วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Open Letter No.7 to the Ambassador of Sweden คุณป้าวันเพ็ญ สวีเดน ตอแหลกับประชาชน ว่าจบแค่ป.4


จดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 7 ถึงทูตสวีเดน
ที่จริงคุณป้า ท่านจบปริญญาเอก ด้อกเต้อร์



ข้าพเจ้าทราบข้อเท็จจริงมาว่า คุณป้าวันเพ็ญ สวีเดน ไม่พูดความจริงกับประชาชน ที่จริงท่านสำเร็จการศึกษา ดุษฎีบัณฑิต ปริญญาเอก ด้อกเต้อร์ อภิมหาบาเรียนสิบครึ่ง มาจากมหาวิทยาลัย ที่ดีที่สุด ระดับท็อปออฟเดอะท็อปเท็น ในประเทศ “เต ฆ้าส”

เอ้ะ ประเทศ เต ฆ้าส  ประเทศอะไรหรือ ไม่เคยได้ยิน?
กาละครั้งหนึ่ง ในอดีตกาล นานโพ้น ข้าพเจ้าผู้เขียน เคยเดินทางแบกเป้ แบบซำเหมา ซึงหงอคง เพราะไม่ค่อยจะมีกะตัง เดินทางไปท่องเที่ยวจรทัศนา ประเทศเม็กซิโก

การเดินทาง ยากระกำลำบาก พอ ๆ กับที่พระถึงซัมจั๋ง เดินทางจากเมืองจีนไปสิบศาสนาในชมพูทวีป เมื่อราวก่อนหน้า ที่ข้าพเจ้า จะไปเม็กซิโกครั้งแรก ประมาณเก้าร้อยปีเศษ คือ ท่านไปอินเดียเมื่อ พ.ศ.1172

และอยู่ที่นั่น 16 ปี รวมทั้งได้เรียนหนังสือ ที่มหาวิทยาลัยนาลันทา อยู่ 5 ปี ราว ๆ พ.ศ. 1180

แต่ท่าน ก็ไม่ได้สำเร็จการศึกษา ดุษฎีบัณฑิต ปริญญาเอก ด้อกเต้อร์ อภิมหาบาเรียนสิบครึ่ง จากมหาวิทยาลัยนาลันทา พระถังซัมจั๋งสู้คุณป้าวันเพ็ญ สวีเดน ไม่ได้

ที่เม็กซิโก ข้าพเจ้าได้พบกับนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่ง และได้ถามเขาว่า พวกคุณมาจากไหนกัน?

โดยถามเป็นภาษาสเปน เพราะเวลานั้น ข้าพเจ้าพอจะพูดภาษาสเปนได้บ้างแล้ว แม้จะไม่ดีเท่าเวลานี้(...ฮะแอ้ม)

พวกเขาตอบเป็นภาษาสเปนว่า เรามาจากประเทศ เต ฆ้าส

ข้าพเจ้าไม่เคยได้ยินชื่อประเทศแปลก ๆ ประเทศนั้นเลย จึงถามต่ออีกว่า ประเทศคุณอยู่ไหน อ่ะ
พวกเขาตอบว่า เราอยู่ทางใต้สุดของสหรัฐ ติดกับด้านเหนือของเม็กซิโก
ต่อมา หลังจากเปิดดิคแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้ทราบว่า พวกเขามาจาก “เท็กซัส”  ซึ่งออกเสียงเป็นภาษาสเปนว่า “เต ฆ้าส”

คุณป้าวันเพ็ญ สวีเดน ที่แท้เธอไม่ได้จบป.4 อย่างมาหลอกเด็ก 


ต้นฉบับวีดีโอ ของคุณป้าวันเพ็ญ สวีเดน (อีเหี้ยนอกกะลา) เชิญที่
ป้าวันเพ็ญ สวีเดน จัดหนัก ไอ้เต้ มงคลกิตติ์ 
สส.เศษสวะ เศษสลึง รับใช้เผด็จการ กะลาแลนด์

วีดีโอต้นฉบับ https://www.youtube.com/watch?v=x0zEXuyqy4I
หรือที่



ธอพูดไว้ในวีดีโอ ที่เวลาวีดีโอ 03:56 ว่า

“...แล้วที่อันดับหนึ่ง ของโลก มึง อยากรู้มั๊ย
เวลา กู พูด อะนะ มึง ไม่ต้องดิ้น
ไปหา ข้อมูล อย่าให้ ป.4 อย่าง กู มานั่งบอก”

ที่แท้ อีเหี้ยนอกกะลาคนนี้ จบปริญญาเอก ด้อกเต้อร์มหาบาเรียนสิบครึ่ง มาจาก มหาวิทยาลัย SHSU ใน รัฐเตฆ้าส ดังกล่าว
ข้าพเจ้ามีข้อมูลชัดเจนว่า เธอจบการศึกษาปี ค.ศ.1978 และอาจารย์พี่เลี้ยงของเธอเป็นชาวฟิลิปปินส์
แต่ครั้น สอบทานข้อมูลอีกครั้ง พบว่า ในปีนั้นไม่มีชาวแคะสตรี จบด้อกเต้อร์จากที่นั่น แต่มีชาวแคะเพศชาย...
เพราะฉะนั้น จึงสรุปได้ข้อมูลที่น่ากลัวเกี่ยวกับเธอ เพิ่มเติม อีก ว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา แต่เธอเป็น... 

ผู้หญิง“มีควย”!



แดง ใบเล่
aka ปรีชา ทิวะหุต
บ้านนาพญา ต.นาพญา
อ.หลังสวน
จ.ชุมพร



วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

อาจารย์ ด้อกเตอร์ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ฟังเพลงโมสาร์ท มั๋ยครับ?



1.ทำไม คนในระบอบประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ จึงยังมีสิทธิเสรีภาพ น้อย ด้อยกว่า เดรัจฉาน?

หมายถึงประชาชนในระบอบประชาธิปไตยเต็มพวง อย่างสหรัฐอเมริกา หรือฝรั่งเศส หรืออินเดียครับ ไม่ขอพูดถึงประเทศไทย

แต่ในเมืองไทยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมเห็นหมาตัวผู้ในตัวเมืองหลังสวน มันเที่ยวเดินดมหี และบางทีเลียหี หมาตัวเมีย อยู่ตามถนนอย่างเสรี

ตามหลักสิทธิเสรีภาพ และด้วยระบอบประชาธิปไตย ทำไมมนุษย์ในระบอบประชาธิปไตยเต็มใบ กลับยังขาดสิทธิเสรีภาพ ที่จะทำเช่นนั้น?

พูดง่าย ๆ ดีกว่า ว่าทำไมประชาชนในระบอบประชาธิปไตย กลับยังมีสิทธิเสรีภาพ ต่ำต้อย น้อยกว่าเดรัจฉาน?

แถมเวลานี้ มีการรณรงค์เพื่อสิทธิเสรีภาพ เพิ่มขึ้น ให้แก่เดรัจฉาน เช่น ขบวนการสิทธิสัตว์เดรัจฉาน (animal rights movement หรือบางทีเรียก animal liberation movement)

ตลกอ่ะ และสงสัยอ่ะครับ ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล

2.ท่านอาจารย์ ด้อกเตอร์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ชอบฟังเพลงโมซาร์ท มั๊ยครับ?

ทั้ง โมซาร์ทและบีโธเฟน เป็นคีตกวีเยอรมัน ที่ฝีไม้ลายมือเลอเลิศ ดนตรีของท่านบำรุงจิตกล่อมใจคนทั่วไป ไม่จำกัดเฉพาะคนเยอรมัน

แต่น่าประหลาด ที่เยอรมัน อันเป็นชาติที่มีคีตกวีจำนวนมากคน ทว่าบทเพลงของท่านเหล่านั้น ไม่สามารถทำให้ใจคอพวกเขา รักและเมตตา เพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้ ในที่สุด สังคมประชาธิปไตยเยอรมัน ก็สร้างลัทธินาซีขึ้นมา สยองขวัญชาวโลก

และสังคมประชาธิปไตยดังกล่าว ก็ได้ฆ่าเพื่อนมนุษย์นับล้าน – ไม่ใช่อย่างโหดเหี้ยม ไม่ใช่อย่างเหี้ยมเกรียม ไม่ใช่อย่างทุเรศทุรังกา อุบาทว์อัปรีย์จัญไร ไม่ใช่ “อย่างใด ๆ“ ทั้งนั้น

ภาษาคนทั้งโลก ไม่มีภาษาใด มีคำกิริยาวิเศษณ์ หรือคำคุณศัพท์ ที่จะสามารถนำมาบรรยาย การกระทำดังกล่าวนั้นได้

ข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์เยอรมัน เรียกการกระทำดังกล่าว ว่า “The Final Solution” หรือ the Final Solution to the Jewish Question ในการประชุมที่ Wannsee ใกล้กรุงเบอร์ลิน หรือ the Wannsee Conference ของพลพรรคนาซี เมื่อเดือนมกราคม ปี 1942 The Final Solution ได้ฆ่าคนยิวในโปแลนด์ไป 90%  และฆ่าคนยิวในยุโรปไปสองในสาม

เมื่อเหยี่อประชาธิปไตย ถูกขนขึ้นรถไฟบรรทุกปศุสัตว์จากทิศต่าง ๆ มุ่งไปยังโรงฆ่าสัตว์มนุษย์ พวกเขาถูกเครื่องมือสี่อสารประชาธิปไตยมาร์เกตติ้ง หลอกว่า จะพาไปทำงานในเยอรมัน...

กระบอกเสียงประชาธิปไตย หลอกเก่งกว่าเผด็จการทหารที่เราคุ้นเคยกัน ซึ่งตอแหลไม่แนบเนียน จับผิดได้ง่าย


เมื่อลงจากตู้รถไฟขนปศุสัตว์ ที่หน้าโรงฆ่าสัตว์มนุษย์ มนุษย์เหยื่อประชาธิปไดยเหล่านั้น คงจะคิดแต่ว่า จะได้ค่าแรงขั้นต่ำเท่าไร

การหลอกต้ม เป็นไปอย่างสนิทมาก เพราะพวกนักฆ่าของระบอบประชาธิปไตย ไม่ต้องการให้เหยี่อแตกตื่น โกลาหลอลหม่าน จนต้องกราดปศุสัตว์มนุษย์ด้วยปืนกล
ซากศพจะกลาดเกลื่อน บนรางรถไฟ น่าอุจาดนัยน์ตา

ใครจะเก็บศพ ก่อนที่รถไฟขบวนต่อมาจะมาถึง และเข้าสถานีมรณะ คงต้องเป็นภาระอันไม่น่าอภิรมย์ ของพวกนักฆ่าในระบอบประชาธิปไตยเหล่านั้น

อย่างไรก็ดี ตามปกติแล้ว เหยื่อประชาธิปไตยและระบอบสิทธิเสรีภาพเหล่านั้น จะถูกฆ่าหมู่ ในเวลาไม่นานหลังจากที่พวกเขา ลงจากตู้รถไฟปศุสัตว์มนุษย์

ถ้าทำให้ตายทันที จะไม่เป็นภาระเรื่องการเลี้ยงดู.....(เป็นเหตุผล ที่ดี)

พวกเขาถูกหลอกให้ไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำรวม ซึ่งเมื่อประตูเหล็กปิดลง สิ่งที่โปรยลงมาจากฝักบ้วเพดาน ไม่ใช่น้ำ แต่เป็นก๊าซมรณะ.....

รมก๊าซอยู่พักใหญ่ อาจนานถึง 40 นาที คนจึงจะตายหมด แล้วประตู “ห้องอาบน้ำฝักบัว” ก็จะถูกเปิดอออก ที่กองอยู่กับพื้นห้อง คือกองเนื้อหนังมังสามนุษย์ ที่พันกันแทบจะเป็นเกลียว พื้นห้องเลอะเทอะด้วยอุจจาระ

ศพเด็ก ๆ และคนอ่อนแอ จะกองอยู่ด้านล่างสุด ของปิรามิดซากศพ ส่วนศพคนแข็งแรง จะอยู่บนสุด มีลักษณะอย่างนั้นทุกครั้ง

คำถาม – ท่านอาจารย์ ด้อกเตอร์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ทราบไหมว่า ปิรามิดซากศพ อยู่ในลักษณะเช่นนั้น ด้วยเหตุผลอะไร?


ส่วนคนที่มีกำลัง คนแข็งแรง จะกระเสือกกระสน ดิ้นรน หนีตายขึ้นสูง หาอากาศหายใจ
คนแข็งแรง จะเหยียบย่ำคนที่ตายแล้ว และที่กำลังจะตาย หรือยังไม่ตายดี ซึ่งขี้แตกขี้แตน อยู่ข้างล่าง ขึ้นไป

ในที่สุด คนที่แข็งแรงที่สุดจะตายหลังเพื่อน อยู่บนยอดปิรามิดซากศพ ที่ขวั้นกันเป็นเกลียว

คนที่จะรอดตาย จากการรมก๊าซพิษ ไม่มี

คนรอดตาย จากค่ายมรณะ มี  แต่ถูกเขาคัดไว้ทำงานในค่าย ตั้งแต่ต้น

ในฝรั่งเศส เมื่อไม่นานมานี้ คนที่รอดชีวิตจากค่ายสังหารของประชาธิปไตยนาซีเยอรมัน พากันออกมาพูด ในทางสาธารณะ...

ภาษาอังกฤษเรียกคนเหล่านั้นว่า holocaust survivors

แต่ละคน ล้วนเป็นคนสูงวัยกันแล้วทั้งนั้น ผู้เขียนยังจำได้ถึงเรื่องเล่า ของเหยี่อผู้รอดชีวิตรายหนึ่ง เธอบอกว่าเธอถูกเลือกไว้ใช้งานในค่าย ไม่ถูกฆ่าทันที  ต่อมา เมื่อถึงคิวฆ่า วันที่เขาจะให้เธอไปเข้าห้องรมก๊าซ ปรากฏว่า วันนั้นก๊าซหมด.....

เธอเล่าอีกว่า ตลอดเวลาในค่ายกักกัน เธอได้ยินพวกผู้คุม มือสังหารทั้งหลาย ฟังเพลงของโมสาร์ท กันตลอดเวลา

เป็นเวลานานหลายปี หลังจากรอดชีวิต แล้วกลับมาอยู่ในฝรั่งเศส เธอไม่อาจฟังเพลงโมสาร์ท ได้อีกเลย.....

3.ท่านอาจารย์ ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ทราบไหมว่า ต้นแบบประชาธิปไตยแบบอังกฤษ อัปรีจัญไร อย่างไร?

ระบอบประชาธิปไตยอังกฤษ ได้ออกนโยบายเก็บภาษีเกลือและห้ามชาวอินเดียผลิตเกลือกินเอง ต้องซื้อเกลือที่มาจากทางราชการอังกฤษ

อินเดีย ซึ่งมีชายฝั่งทะเลยาวรวมประมาณ 7,500 กิโลเมตร คนอินเดียไม่มีสิทธิเสรีภาพแบบประชาธิปไตย ที่จะผลิตเกลือกินเอง เมื่อประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในอินเดีย พ.ศ. 2473 มหาตมคานธี ได้นำชาวอินเดีย เดินไปยังชายทะเลรัฐมหาราษฏระ ไปหยิบเกลือชายทะเลมากกิน โดยพละการ.....

ต่อมา ชาวอินเดียก็พากันท้าทายระบอบประชาธิปไตยอังกฤษ พากันทำเกลือทะเลกินเองและขายกันเอง มีคนถูกจับนับหมื่นคนจากการกระทำ "ความผิด" ดังกล่าว

ระบอบการปกครองที่ทำนโยบาย ห้ามประชาขน ในประเทศที่มีชายฝั่งทะเลยาว 7,500 กิโลเมตร ทำเกลือกินเองและเก็บภาษีเกลือ(อย่างแพง)นั้น ถ้ามันไม่อัปรีย์จัญไร และอุบาทว์สุด ๆ โคดแม่มันคิดไม่ออกหรอก.....

แต่ ระบอบประชาธิปไตยอังกฤษ คิดออกครับ

ชมหนังตัวอย่างเรื่อง gandhi 1982 พากย์ไทย ตามลิงก์
https://www.youtube.com/watch?v=4pENM42-QB8



4. อินเดีย เป็นประเทศประชาธิปไตยที่ประกอบด้วย ความหลากหลายทางความคิดความเชื่อ และใหญ่โตที่สุดในโลก แต่ ทำไม นักประชาธิปไตยจากประเทศไทย กลับไม่มีสักคนเดียว ที่ไปลี้ภัยในอินเดีย?


อาจารย์ ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ช่วยอธิบายหน่อยครับ ว่า ทำไม?

5.จอห์น สจ๊วต มิลล์ เป็นนักปรัชญาประชาธิปไตยขึ้นชื่อผู้หนึ่ง ซึ่ง ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ย่อมผ่านการได้ศึกษางานของเขามาแล้ว เช่น เรื่อง On Liberty เป็นต้น  ถ้าผมจะบอกว่า ข้อเขียนเรื่องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยของเขา ล้วนยิ่งเสียกว่า โกหกตอแหล เสียอีก คือหาคำมาเรียกไม่ถูก แล้วผมสามารถแสดงหลักฐาน มาแฉประเด็นนี้ได้ชัดเจน ดร.เสกสรรค์ ประเสริฐกุล จะให้เงินผมเท่าไร? (ผมเป็นคนหน้าเงิน ครับ)





เดฟ นาพญา  แดง ใบเล่
aka ปรีชา ทิวะหุต
บ้านนาพญา ต.นาพญา
อ.หลังสวน
จ.ชุมพร

วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

เมดเล่ย์ เพลงพระนิพนธ์ ของ "เสด็จเตี๋ย" กรมหลวงชุมพรฯ


เพลงที่สอง ชื่อ "ดอกประดู่" แพร่หลายมาก  ไม่เฉพาะแต่ในหมู่ทหารเรือ  ซึ่งเป็นดุจบทเพลงที่บ่งบอกถึง จิตวิญญาณของทหารเรือไทย  แต่เพลงนี้ คนทั่วไปทั้งที่เป็นชาวเรือ และไม่ใช่ชาวเรือ ก็รู้จักกันกว้างขวาง  

ในวีดีทัศน์นี้ "ดอกประดู่" ได้รับการถ่ายทอดอย่างไพเราะ สง่างาม โดยวงดุริยางค์และนักร้องทหารเรือ






ส่วนเพลงที่สาม มีลักษณะค่อนข้าง philosophical อันเป็นแนวปรัชญาที่ผู้เขียนบลอคนี้ สมาทานอยู่ในปัจจุบัน....

ผู้เขียนได้รับการปลูกฝังมาแต่เยาว์วัย ที่บ้านในเขตจังหวัดชุมพร ให้เคารพนับถือ เลื่อมใส ใน "กรมหลวง"  ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ได้รู้จักพระองค์ท่าน นอกไปจาก คำว่า "กรมหลวง"

บรรพชนของผู้เขียน เคยได้รับความเมตตา จากเจ้านายในสายสกุลของพระองค์ท่าน มาแต่ก่อน...


ศาลของ "เสด็จเตี๋ย" หรือ "กรมหลวง" หรือ นายพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์  ที่หาดทรายรี จังหวดชุมพร อันเป็นสถานที่สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2466 นั้น  เป็นที่เคารพนับถือยิ่ง ของชาวจังหวัดชุมพรและชาวใต้โดยทั่วไป 


“…เรือเอกเจริญ ทุมมานนท์ เป็นนายธงคนสุดท้ายของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้ตามเสด็จไปที่จังหวัดชุมพรด้วย ในคราวที่เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ เพิ่งหายจากประชวรและทรงหวังจะไปพักผ่อน พระองค์โปรดให้สร้างพระตำหนักชั่วคราวขึ้นที่หาดทรายรีเป็นที่พักแรมเพราะทรงรักหาดทรายรีมาก

-- หนังสือ “คิดถึงพ่อ”  หนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพของ นาวาเอก สมารมภ์ บุนนาค

“…ก่อนที่จะออกเรือไปสงขลาเพียงวันเดียว ตกกลางคืนชาวบ้านเอาหนังตะลุงมาเล่นถวายเสด็จในกรมฯ อากาศตอนนั้นก็เยือกเย็น เสด็จลงประทับบนเก้าอี้ มีผ้าคลุมพระชงฆ์ทั้งๆ ที่ท่านไม่ค่อยทรงสบายประชวรหวัดอยู่บ้างแล้ว ตอนนั้นทรงฉลองพระองค์เสื้อกุยเฮง กางเกงแพรปังลิ้ม มักจะประทับบนเก้าอี้ คุยเล่นกับเด็กๆ ทำของเล่นกับเด็กๆ ไม่เห็นท่านดำเนินไปไหนมาไหนเลย ในคืนวันนั้นด้วยความที่ท่านเกรงใจในความหวังดีของชาวบ้าน จึงต้องแข็งพระทัยทอดพระเนตรอยู่ทั้งๆ ที่ต้องตากน้ำค้างด้วย ตกดึกมีอาการมากขึ้น ต้องให้คนขี่ม้าไปซื้อยาในตลาด กว่าจะไปถึง กว่าจะกลับมาอาการก็ทรุดหนัก ต่อมามีหมอจากกรุงเทพมาตรวจบอกว่าท่านเป็นปอดบวม หาซื้อยาที่ต้องการก็ไม่ได้ ตามที่ท่านเสด็จไปหาดทรายรีคราวนั้นก็ไม่ได้เตรียมการอะไรมากมายเลย เพราะกะไว้ว่าจะต้องกลับไปอีกครั้ง
ตอนดึกได้ยินเสียงคุณย่าร้องไห้จึงทราบว่าเสด็จลุงกรมหลวงชุมพรสิ้นพระชนม์เสียแล้ว…”

-- หนังสือ “คิดถึงพ่อ”  หนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพของ นาวาเอก สมารมภ์ บุนนาค 

อ้างอยู่ใน บทความเรื่อง  "สาเหตุการสิ้นพระชนม์ของกรมหลวงชุมพรฯ วิเคราะห์ผ่านการแพทย์สมัยใหม่"  รศ. นพ. เอกชัย โควาวิสารัช  ศิลปวัฒนธรรม ฉบับกรกฎาคม 2553 


ชีวิตของเสด็จในกรมฯ เป็นชีวิตที่น่าศึกษา เป็นประโยชน์สำหรับหลาย ๆ คน รวมทั้งผู้เขียนบลอคนี้.....



ชมสารคดี กองทัพเรือ ส่ง เรือหลวงปัตตานี กับ เรือหลวงสิมิลัน

ไปร่วมปราบโจรสลัด โซมาเลีย นอกฝั่งอัฟรีกาเหนือ.....






เดฟ นาพญา  แดง ใบเล่
aka ปรีชา ทิวะหุต
บ้านนาพญา ต.นาพญา
อ.หลังสวน
จ.ชุมพร

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เสียดาย ก่อนตาย ศิลปินแห่งชาติ สุจิตต์ วงศ์เทศ ไม่ได้อ่าน


เสียดาย ก่อนตาย ศิลปินแห่งชาติ สุจิตต์ วงศ์เทศ ไม่ได้อ่าน


มุกหอม วงษ์เทศ: 
ความเป็นไทย”: อัตลักษณ์แห่งความดักดาน
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
Submitted on Sat, 2011-09-03 21:47
มุกหอม วงษ์เทศ

อ่านบทเต็ม ตามลิงก์  https://prachatai.com/journal/2011/09/36738  ที่ยกมาเสนอต่อไปนี้ คัดมาบางตอน เท่านั้น โปรดไปตามลิงก์ เพื่ออรรถรสอันสมบูรณ์
"ถ้าลองใช้โวหารชาตินิยมไทยดูบ้าง ข้าพเจ้าคิดว่า ความเป็นไทยมากมายหลายอย่างเป็นตัวถ่วงความเจริญของชาติไทยและคนไทย หรือกล่าวอย่างกำปั้นทุบดินได้ว่า ความล้าหลังและลักษณะอนุรักษนิยมจัดของสังคมไทยมีสาเหตุหลักๆ มาจากความเป็นไทยนั่นเอง"

"และถ้าจะลองเลียนสำนวนชนชั้นสูงไทย เพื่อความเป็นศิริมงคล ความคิดและการงานสิ่งใดของฝรั่งหรือญี่ปุ่นที่คิดประดิษฐ์ขึ้นดี ๆ ข้าพเจ้าเห็นว่าเราควรเลื่อมใสนับถือให้มาก เราไม่ควรตามโลกตะวันตกเฉพาะด้านความเจริญทางวัตถุ แต่ควรตามความเจริญในโลกสากลทางด้านความคิดจิตใจ และความสัมพันธ์ทางสังคมด้วย แล้วถ้าจะลองเสนอนโยบายให้กระทรวง(ไม่มี)วัฒนธรรมพิจารณา ในเมืองไทยสิ่งที่ควรจะรักษา(แต่ไม่ใช่ตะบันขึ้นทะเบียน) คือ มรดกวัฒนธรรมทางศิลปะ/วัตถุ(บางอย่าง เพราะไม่มีที่ไหนทำได้ทุกอย่าง) ไม่ใช่มรดกวัฒนธรรมทางความคิดจิตใจ และสิ่งที่ควรจะปรับเปลี่ยนรื้อถอนคือ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ.........."

"การเมืองภายใน ย่อมมีส่วนด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นเดียวกับ คำที่แบกความซับซ้อนยอกย้อนไว้มหาศาลอย่าง
 “สังคม” “วัฒนธรรม” “พุทธศาสนา” “ฝรั่ง” “แขก” “โลกตะวันตก” “ชนชั้นกลาง” “ชนชั้นนำ” “ชาวบ้าน” “ประชาธิปไตย” “อนุรักษนิยม” “เสรีนิยม” “ซ้าย” “ขวา” และอื่นๆ อีกมากมายที่แม้จะระแวดระวัง และตระหนักถึงข้อจำกัดของการใช้มโนทัศน์เหล่านี้ แต่ก็จำต้องใช้ โดยไม่อาจเลี่ยงมิติของการเหมารวม และลดทอนความซับซ้อนยอก  ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ.........."

"ฯลฯ ก็เป็นอะไรที่
 ไทยๆ มากเช่นกัน แม้แต่การใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยในสื่อทันสมัย ก็เป็นอะไรที่ ไทยๆ อีก เพราะต้องเขียนแบบ “Thank you kha” “See you tomorrow krub” “No problem na ja” “Don’t worry ja” “Wait for me duai la kan” etc. ภาษาอังกฤษแบบฝรั่งเป็นอะไรที่ ห้วนไป สำหรับการสื่อสารแบบไทย ๆ ด้วยภาษาอังกฤษ ความเป็นไทย ๆ แบบ เป็นไปเอง ทำนองนี้เป็นความปกติธรรมดา ของการไม่อยู่นิ่งของวัฒนธรรมในวิถีชีวิต ไม่ค่อยมีพิษมีภัยใหญ่หลวง แต่ถ้าจะน่ารำคาญ สร้างมลพิษทางภาพและเสียง หรือลดทอน  ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ ................."

"ความเป็นไทยรักความสงบเรียบร้อย แต่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและขจัดความกระด้างกระเดื่องต่อความเป็นไทย ความเป็นไทยมีความชอบธรรมที่จะออกใบอนุญาตฆ่าได้ทุกเมื่อ
 ความเป็นไทยไม่มีปัญหาเลยกับความรุนแรงเชิงกายภาพและเชิงโครงสร้างจากบนลงล่าง แต่จะมีปัญหามากหากเกิดจากล่างขึ้นบน และจะมีปัญหามากที่สุดหากมีการกล่าวหาว่า ความเป็นไทยคือความรุนแรง สุดท้ายนี้โปรดเข้าใจและเห็นใจกันหน่อยว่า ความเป็นไทยจำเป็นต้องก่อกรรมทำเข็ญและโหดเหี้ยมอำมหิตในบางครั้ง เพื่อพิทักษ์รักษาความเป็นไทย ด้วยเหตุที่ความเป็นไทย เป็นศัตรูกับความมีอารยะและความเจริญก้าวหน้า ความเป็นไทยจึงเป็นมิตรได้แต่กับความดักดานเท่านั้น ขออัญเชิญไปลงนรกเสียเถิด ความเป็นไทย”  "



The Critique

วิจารณ์เชิงพรรณนา:

นักเขียนสตรี ขาวฝรั่งเศส เช่น ซีโมน เดอ โบวัว หรือสตรีฝรั่งเศสอื่นที่มีผลงานใน    น.ส.พ.เลอ ม็งด์ หรือนักเขียนสตรีอเมริกัน ที่มีผลงานลง น.ส.พ.นิวยอรค์ ไทม์  หรือนักเขียนสตรีสเปนและละตินอเมริกา ที่มีผลงานลง น.ส.พ.เอล ไปอีส

ที่มีผลงาน ลักษณะลีลาและเนื้อหา เกี่ยวกับสังคมฝรั่งเศส หรือสังคมอเมริกัน หรือสังคมสเปนและละตินอเมริกา ในทำนองเดียวกับผลงานเรื่อง ความเป็นไทย”: อัตลักษณ์แห่งความดักดาน ของ คุณมุกหอม วงษ์เทศ  นั้น  ผู้วิจารณ์ไม่เคยพบ

แต่นั่นแหละ ผู้วิจารณ์ก็มีประสบการณ์การอ่าน น.ส.พ.ทั้งสามฉบับนั้น ไม่ครบถ้วน แม้ปัจจุบันนี้ จะมี กูเกิ้ลช่วยอยู่ก็ตาม  อย่างไรก็ดี หากท่านผู้อ่านท่านใด ได้พบงานลักษณะนั้น โปรดส่งลิงก์ ให้ผู้วิจารณ์ด้วยครับ จะขอบพระคุณยิ่ง

สไตล์ รวมทั้ง เนื้อหาบางช่วงตอน ในการนำเสนอของ คุณมุกหอม วงษ์เทศ คอลัมนิสต์ชื่อดังท่านนี้ มีท่วงทำนองค่อนข้าง สำคัญตนถูก และเขื่องมาก ด้วยความ สำคัญตนถูก ดังกล่าว

คืออย่างไร? กล่าวคือ เธอพยายามจะ “เอา หีขึ้นไปยี บนหัว”  คนไทยเกือบทั้งประเทศ โดยมิได้เลือกหน้าอินทร์หน้าพรหม

เธอออกอาการ “อีป่วย” 99.999%   ดังจะเห็นได้ว่า เธอ ยีหี บนหัวคนไทยมากคน   จนมันหี มาก กระทั่งเขียนเป็นพืด ลืมวรรคตอน....(วรรคตอน ในตัวอย่างด้านบน ผู้วิจารณ์ทำขึ้นเอง งานต้นฉบับของเธอ จะเขียนติดกันเป็นพืด)



วิจารณ์เสนอแนะเชิงบวก และสร้างสรรค์
คุณมุกหอม วงษ์เทศ โปรดไป “ซ่อมหี”  ด่วน!





เดฟ นาพญา แดง ใบเล่
aka ปรีชา ทิวะหุต
บ้านนาพญา ต.นาพญา
อ.หลังสวน
จ.ชุมพ


วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2562

OPEN LETTER NO. 6 to Ambassador of Sweden Dunning – Kruger Effect


จดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 6
ถึง ทูตสวีเดน

A stupid bitch in motion

 “อีโง่บัดซบ กำลังอวดฉลาด”


ศาสตราจารย์วิชาจิตวิทยาสองท่าน ที่มหาวิทยาลัย คอร์แนล สหรัฐอเมริกา สร้างผลงานวิจัยที่รู้จักกันทั่วไปในสมยานาม
Dunning – Kruger Effect

ซึ่งได้มีผู้นำมาเสนอเป็นภาษาไทย ทางช่องยูทูบ  ใช้ชื่อวีดีโอ ว่า

ทฤษฎี โง่ แต่อวดฉลาด – The Dunning Kruger Effect”

ส่วนการนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษ มีมากมาย หลายรูปแบบ เช่น ที่อาจารย์ เดวิด ดันนิง นำเสนอเอง เป็นการ์ตูนผ่านช่องทาง TED ED เป็นต้น

เรื่องเดิมมีว่า วันหนึ่งในปี ค.ศ.1995 หรือ พ.ศ.2538 โจรคนหนึ่งปล้นธนาคารในเมืองพิตสเบิร์ก สหรัฐอเมริกา สองธนาคาร ภายใน  วันเดียวกัน  เขาไม่สวมหน้ากากหรือผ้าปิดหน้า  แต่กลับเปิดหน้า  ยิ้มแย้ม ท้าทาย กล้องวงจรปิดในธนาคาร ด้วยซ้ำ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับตัวคนร้ายได้ในเวลาไม่ช้าไม่นาน  

เคล็ดของเรื่องมีว่าผู้ร้าย เขื่อเต็มหัวใจว่า กล้องวงจรปิดจะไม่สามารถจับภาพใบหน้าเขาติด เพราะ เขาศึกษามาแล้ว รู้ว่า ถ้าใช้น้ำมะนาวทาหน้า  กล้องจะจับภาพใบหน้าไม่ได้  กล้องมันจะมองไม่เห็น  

ความรู้นี้ โจรเชื่อต่อ มาจากข้อความจริงทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า สูตรเคมีที่ใช้ทำหมึกขาว ที่เขียนแล้วมองไม่เห็น กับ เคมีของน้ำมะนาว เป็นสูตรเดียวกัน


การวิจัยเกี่ยวกับพวกโง่บัดซบ ซึ่งขี้มักจะสำคัญตนผิด คิดว่า ตัวฉลาดลึกล้ำซะเหลือเกิน จึงเกิดขึ้น  และมีงานวิจัยทางจิตวิทยาทำนองนี้ เกิดขึ้นอีกนับร้อยกรณี ต่างล้วนได้ข้อสรุปอย่างเดียวกัน.....

ผู้วิจารณ์ไม่คิดว่า คุณป้าวันเพ็ญสวีเดน จะเข้าข่าย อีโง่บัดซบ แต่อวดฉลาด  แต่ผู้วิจารณ์เห็นว่า งานวิจัยเรื่องทำนองนี้นั้น คุณป้าวันเพ็ญสวีเดน ผู้ชอบหาข้อมูลทางอินเตอร์เนตอยู่แล้ว น่าจะลองเคาะชมเสียบ้างครับ......

เช่น ที่เวลาวีดีโอ 26:15 คุณป้า วันเพ็ญ สวีเดน แสดงความไม่พอใจ ถ้าใครไม่รู้จักสืบค้น หาความรู้ ทางอินเตอร์เนต

ทฤษฎี โง่ อวดฉลาด
ที่ วันเพ็ญสวีเดน น่าจะทราบและศึกษา

คนที่ไม่มีความสามารถ จะไม่มีทางรู้ ถึงความไร้ความสามารถของตัวเองได้

เพราะว่า ความสามารถที่คนเรา จำเป็นต้องใช้เพื่อจะเรียนรู้ว่า ตัวเองไร้ความสามารถนั้น

เป็นความสามารถชนิดเดียวกัน กับความสามารถที่คนเหล่านั้น ไม่มี

เนื่องจากผุ้วิจารณ์ ไม่มีความสามารถ จึงได้อ่านทวน ข้อความข้างบน ๓ คำรบจึงเข้าใจ

ตัวอย่าง เช่น......

คนที่ร้องเพลงไม่เก่ง จะไม่รู้ตัวว่า ตัวเองร้องเพลงไม่เก่ง
เพราะว่าเขาไม่มีความสามารถในการร้องเพลง พอที่จะทำให้เขารู้ว่า                 การร้องเพลงเก่ง จริง ๆ นั้นเป็นอย่างไร


ที่เวลาวีดีโอ 0826 ของ วันเพ็ญ สวีเดน แสดงให้เห็นชัดเจน เป็นตัวอย่างหนึ่ง ในหลาย ๆ ตัวอย่าง ที่ คุณป้าวันเพ็ญ สวีเดน แสดงความเชี่อมั่น ในความรู้ของตน...เช่น

08:26  “ไอ้ สุเทพ เทือกสุบรรณ  ป้น สาวกของตัวเองไปเท่าไหร่.....”

คำว่า ป้น เข้าใจว่า คุณป้าวันเพ็ญสวีเดน คงจะหมายถึงคำภาษาไทยว่า “ปล้น”

08:32  “กูรุ้ กูรู้ กูรู้.....”





แดง ใบเล่
aka ปรีชา ทิวะหุต
บ้านนาพญา ต.นาพญา
อ.หลังสวน
จ.ชุมพร


วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เสียดาย ก่อนตาย วันเพ็ญ สวีเดน ไม่ได้อ่าน Open Letter no.5 to the Ambassador of Sweden, หมิ่นศาสนา


Open Letter no.5 to the Ambassador of Sweden

วิจารณ์วีดีโอชื่อ “ป้าวันเพ็ญ สวีเดน จัดหนัก ไอ้ เต้ มงคตกิตติ์ 

ส.ส.เศษสวะ เศษสลึง รับใช้เผด็จการกะลาแลนด์”

ต้นฉบับวีดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=x0zEXuyqy4I

 

หรือที่



วันเพ็ญสวีเดน หมิ่นศาสนา


ซึ่งเข้าข่าย ผิดตามลักษณะ 4 ในประมวลกฎหมายอาญา ของประเทศไทย เรื่องความผิดเกี่ยวกับศาสนา มีระวางโทษจำคุกถึง เจ็ดปี

เวลาวีดีโอ 14:50      คุณป้าวันเพ็ญสวีเดน ร้องว่า


                             โอ พระเจ้าช่วย ควยถอก


คุณป้าวันเพ็ญ กำลังหมิ่นศาสนาถึงสามศาสนาในคราวเดียว  อันได้แก่สามศาสนาหลักที่เคารพนับถือ พระผู้เป็นเจ้าเป็นใหญ่ ได้แก่ ศาสนายิว ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม  อาจแยกเป็นคดีได้สามคดี  และอาจมีโทษรวมกันถึง 21 ปี ในคุกไทย

ถึงแม้ว่า วันเพ็ญสวีเดน จะหนีเงื้อมมือกฎหมายไทยพ้น  แต่พี่น้องมุสลิมจำนวนมากจากซีเรีย ที่เพิ่งอพยพไปอยู่ในสวีเดน จะไม่พอใจอย่างมาก หากรู้เข้า

ระวัง พวกเขาจะใช้ กฎหมายของพระเจ้า เอากับ วันเพ็ญสวีเดน

ขอองค์อัลเลาะห์ทรงพระเมตตา อย่าให้เหตุการณ์เช่นนั้น ต้องเกิดแก่ วันเพ็ญสวีเดนเลย

การแสดงอาการประกอบคำพูดอุทาน อย่างกับนางละครในตรอกกระหรี่ ที่อำเภอชุมแสง จ.นครสวรรค์ ด้วยการ ปิดป้อง ปิดกั้นใบหน้า  หลังจากเอ่ยอ้างถึงพระเจ้า  ก็เป็นการล้อเลียนพระองค์  ดูหมิ่นศาสนาที่นับถือพระเจ้าเป็นใหญ่ ทั้งสามศาสนานั้น

ซึ่งท่านสอนว่า พระเจ้าเสด็จมา ทรงเป็นผู้เปิดเผย ไม่ใช่ปิดกั้น

การเอ่ยพระนามพระเจ้า ต้องกระทำด้วยความเคารพ เปิดเผย เปิดหน้ารอรับพระบัญชา หรือโองการ หรือพระกรุณา ไม่ใช่ปิดป้อง ปิดกั้น ไม่ให้พระเจ้าแลเห็นใบหน้า

ในพระคัมภีร์ภาคภาษากรีก  หรือที่รู้จักกันอย่างสามัญว่า พันธสัญญาใหม่ หรือ the New Testament  ตอนท้าย ๆ ต่อจากเล่ม ยอห์น และ ยูดา  จะเป็นเล่มที่ว่าด้วยการเปิดเผย หรือ the Revelation  หรือที่ภาษาไทยเรียกอย่างเป็นทางการว่า วิวรณ์

อันเป็นการเปิดเผย ขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ศาสนาของพระเจ้า หรือที่นับถือพระเจ้าเป็นใหญ่ จะเป็นศาสนาแห่ง วิวรณ์หรือ the Revelation  และ วิวรณ์ ก็เป็นหลักธรรมหนึ่งในศาสนาของพระเจ้า

ส่วนการปิดกั้น ปิดป้อง อันเป็นอาการที่ คุณป้าวันเพ็ญสวีเดน แสดงออกมา หลังจากเอ่ยนามตำแหน่งพระองค์ (พระนามจริง คือ ยะโฮวา) การปิดกั้น นั่นเป็นธรรมมะ ในศาสนาพุทธต่างหาก...คำอธิบายอยู่ในลำดับถัดไป

ศาสนาพุทธเท่านั้น ที่เทศนาหลักธรรมเรื่องการ ปิดกั้น”  ที่ท่านเรียกว่า  นิวรณ์

ไม่ใช่ วิวรณ์ในศาสนาคริสต์ และศาสนาที่นับถือพระเจ้าเป็นใหญ่  อย่าได้นำมาสับสน ปนเปกัน

นังคุณป้าวันเพ็ญสวีเดน เนี่ยะ  เข้าข่าย อุทธัจจะกุกกุจจะ  อันเป็นหนึ่งใน นิวรณ์ห้า ของศาสนาพุทธ  โดยนัย กล่าวได้ว่า ความฟุ้งซ่านคอยปิดกั้น ไม่ให้เธอแลเห็น พระเจ้า

อนึ่ง การเอ่ยอ้างคำภาวนา ออกมาว่า ควยถอก  ว่าที่จริง ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายโบราณ ที่ห้ามนับถือ ควย”  ใจความส่วนหนึ่ง จาก กฎหมายตราสามดวง  ความว่า

เพศบุรุษลึงใหญ่น้อยต่าง ๆ หญิงชายชวนกันนับถือนั้น 
ทรงพระกรุณาให้นักปราชญ์ราชบัณฑิตค้นดู ในพระไตรปิฎกก็มิได้มีอย่าง 
ให้สืบถามดูอย่างธรรมเนียมในพระนครธานีต่าง ๆ
ก็มิได้มีเยี่ยงอย่าง.....

จึงทรงพระวิจารณ์ (คือ ทรงคอมเม้น) เห็นว่า
แรกเหตุจะมีมา เพราะคนพาลกักขฬะ หยาบช้าแซ่งกระทำเพศอันนี้ เยาะเย้ย หญิงแม่มด
อันมีมารยาหาความละอายมิได้
เป็นเดิม.....

ทั้งนี้ โดย

กฎ ให้ไว้ ณ วันพุทธเดือนเก้า ขึ้นสิบสามค่ำ
จุลศักราชพันร้อยสี่สิบสี่ ปีขาล จัตวาศก

อีกประการหนึ่ง ประเพณีในศาสนาของพระเจ้า รวมทั้งศาสนายิว และศาสนาคริสต์นิกายใหญ่หลายนิกาย จะมีธรรมเนียมเรื่องการขลิบหนังหุ้มปลาย ที่เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า ทำสุหนัต

เพราะฉะนั้น การเอ่ยอ้างภาวนา ว่า

โอ พระเจ้าช่วย ควยถอก

จึงเป็นการสร้างภาพ ตอแหล ตลบตะแลง ตะแบงสร้างสะตอรี่ขึ้นมา  ซึ่งขัดกับข้อเท็จจริง  ชนิดหน้ามือเป็นหลังตีน  เป็นการกระทำของ หญิงแม่มด อันมีมารยา หาความละอายมิได้ เป็นเดิม

เพราะ ควย ของพวกเขาจะ ถอก ได้อย่างไร  ในเมื่อไม่มีหนังหุ้มปลาย  พวกเขาถูกขลิบหนังหุ้มปลายทิ้งไป โยนให้เป็ดกิน ตั้งแต่ยังเด็ก

ด้วยเวรกรรมที่กระทำลงไปนี้  เถรเทวทัตจะแทรกแผ่นดินขึ้นมา  มือซ้ายกระชากผม วันเพ็ญสวีเดน จนหน้าหงาย  ส่วนมือขวาตะปบเข้าที่หีวันเพ็ญสวีเดน  ลากอีนังคุณป้าวันเพ็ญสวีเดน  ลิ่วละล่องไปยังหลุมดำอันมืดมิด ที่กลางมหาจักรวาล ดำดิ่งลงสู่ อเวจีมหานรก.....

เราทั้งหลาย อาจสามารถช่วย ๆ กันอำนวยอวยพร  แก่อีนังคุณป้าวันเพ็ญสวีเดน หีเน่า นังอัปรีย์จัญไร กาลีบ้าน กาลี เมืองสต็อคโฮล์ม  ดังที่กฎหมายตราสามดวง บัญญัติเรียกว่า หญิงแม่มดอันมีมารยา หาความละอายมิได้ เป็นเดิม”  ด้วยคำสาป จากวรรณคดีไทย ขุนช้างขุนแผน  ดังนี้


หมามัน จะเกิด ชิงหมาเกิด
มึงไปตาย เสียเถิด อีห้าเบี้ย




แดง ใบเล่
aka ปรีชา ทิวะหุต
บ้านนาพญา ต.นาพญา
อ.หลังสวน
จ.ชุมพร