ในวงสนทนาและนินทาที่หมู่บ้านชนบทของผู้เขียนนั้น บางทีสมาชิกก็พูดคุยกันแบบจัญไร น่าเกลียดสุด ๆ
โปรดหยุดอ่าน
ณ บัดนี้ สำหรับท่านผู้อ่านที่อาจจะระคายหูง่าย ๆ ทนไม่ได้จริง ๆ
กับเรื่องราวแนวนี้ โปรดถอนตัว ชีวิตท่านจะดีขึ้น อย่ามาเสียเวลากับเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจริง
และเล่าตามจริง เรื่องนี้.....
เรื่องมีว่า
เย็นวันหนึ่งระหว่างการสนทนาอันเป็นกิจกรรมประจำของหมู่เรา ชุมนุมกันที่หน้าเพิงขายของชำประจำหมู่บ้าน ผู้คนเริ่มทยอยกันมา ทีละคนสองคน ยามย่ำสนธยา
บางคนกินเหล้าโรง หรือเหล้าขาว ที่คุณพี่ผู้หญิงเจ้าของเพิงขายของชำดังกล่าว เธอแบ่งขาย
บรรจุในขวดเครื่องดื่มชูกำลังขวดเล็ก ๆ ราคาถูกกว่าเบียร์หนึ่งกระป๋อง บางคนจะซื้อโซดามาผสมกิน แต่บางคนกินเพียว ๆ เมาไวและเมาไม่เปลือง(กะตัง) คนมีเงินเขาจะกินเบียร์
ราคากระป๋องละประมาณสี่สิบบาท
สุภาพสตรีทั้งหลายกินหมากเป็นพื้น
แต่ที่กินเหล้าก็มีบ้าง พวกเธอจะกินเหล้าดองยา และกินสุภาพเรียบร้อย กรึ้บเดียวหมดจอก ไม่นั่งถอง ร่ำสุราเพ้อเจ้อ
พร่ำตอแหลกับชายทั้งหลาย พวกเธอจะนั่งกินหมากฟังการสนทนา
มีส่วนร่วมเมื่อจำเป็น เชื่ยนหมากเป็นของคุณพี่เจ้าของร้านค้า พลูกับหมากผู้คนก็ช่วย ๆ กันถือติดไม้ติดมือมา ผู้ชายก็กินหมากด้วยเหมือนกัน
คุณพี่ผู้หญิงเจ้าของสถานที่
เธอไปทัวร์ต่างประเทศประจำทุกปี
ทั้งยุโรปและเอเชีย ลูกสาวเธอซึ่งไปเอาผัวอยู่ที่ยุโรปพาไปเที่ยว และยังมีเด็กสาวแถวบ้านเอาผัวยุโรปอีกสองคน
อยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์กับที่อิตาลี
หลานสาวผู้เขียนมันเอาผัวออสเตรเลียคนหนึ่ง
กับเอาผัวอัฟริกาตะวันตกอีกคนหนึ่ง
เขามาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่นี่ เพราะฉะนั้นชนบทบ้านเราค่อนข้างอินเตอร์
เย็นวันหนึ่ง มีบ่าวอยู่คนหนึ่ง(ชายผู้หนึ่ง) เขาเป็นสมาชิกประจำวง เก่าแก่กว่าผู้เขียนเสียอีก เขาทำอาชีพรับจ้างอยู่ในเมือง(หลังสวน) ทุกเย็นจะมานั่งร่ำสุราแต่ไม่อาละวาด ที่ชมรมหน้าร้านขายของชำจิ๋ว
ๆ แห่งนี้
เย็นวันนั้น ไม่ทราบว่าบ่าวคนนั้นเขาเป็นบ้าอะไรมา
จะอึดอัดขัดข้องใจมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ ๆ
ก็เล่าในวงด้วยเสียงอันดังเรื่องที่ตัวเองท้องผูก
บอกว่าผูกสุด ๆ อย่างไม่เคยมาก่อน
พอได้เกริ่นเรื่องแล้ว
พี่แกก็ลงรายละเอียด
ว่าทุกข์ทรมานมาก มันบอกว่ามัน “เจ็บขี้”(ภาษาใต้
แปลว่า ปวดท้องอุจจาระ)
แต่มันอึไม่ออก.....
ระหว่างที่บ่าวคนนั้นกำลังพรรณนาเหตุการณ์
ชัดแจ๋ว เหมือนถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิทัลชนิดพิกเซลสูง คุณพี่เจ้าของร้านแกเบือนหน้าหนี คุณพี่แกไม่ขัดคอใคร แต่แกคงรู้สึกยากที่จะทนฟัง
แกหันหน้ามาทางผู้เขียนซึ่งนั่งอยู่ปลายสุดในวงสนทนา แกทำหน้าทำตาขอความช่วยเหลือจากผู้เขียน
ช่วงนั้น ไอ้บ่าวคนนั้นมันเล่าถึงตอนที่มันกำลังเข้าไปนั่งส้วมพอดี พูดด้วยเสียงดังฟังชัด กลั้วหัวเราะ เพลิดเพลิน
สนุกสนาน หัวเราะร่วน ชอบใจตัวเองอยู่ผู้เดียว มีอาการมึนเมานิด ๆ มันเล่าอุบาทว์ ๆ เพื่อแกล้งคนทั้งวง
รวมทั้งผู้เขียนด้วย
คุณพี่เจ้าของสถานที่ ไม่หันไปทางมันเลย แถมยิ่งแสดงสีหน้าบอกผู้เขียน
คล้าย ๆ กับพูดว่า
ช่วยทำให้มันหุบปากหน่อย พ่อคุณ หรืออะไรประมาณนั้น
ทำให้ผู้เขียนต้องคิดหาวิธี
ที่จะเบรคบ่าวผู้นั้น เหมือนเด็กกำเข็มเย็บผ้าไว้กับมือ
รอเจาะลูกโป่งเพื่อน ให้แตกดังโพละ
ถึงตอนนั้น
เขาเล่ามาถึงช่วงที่กำลังนั่งเบ่งอยู่ในส้วม
พูดซ้ำซากว่าอึไม่ออก ถึงขนาดต้องใช้นิ้วมือล้วงเข้าไป เพื่อควักออกมา......ดูมันเล่าละเอียด
น่าเกลียด ขนาดนั้น
ผู้เขียนได้ยินแล้ว
ก็ได้จังหวะ ปะเหมาะเห็นช่องเบรคตรงนี้ จึงย้อนถามไปว่า
:
“ตอนที่ล้วงเข้าไป มึงแยงเข้าไปนิ้วเดียว หรือกี่นิ้ว อ่ะ?
{คำชี้แจง เส้นประ....................==>>พื้นที่เชิงพาณิชย์
เติมเงินมา —แล้วจะเติมเนื้อหาเต็ม
หากสงสัย – โปรดอ่านคำชี้แจงที่ "ผมไม่ใช่ จิ้งหรีด
นะครับ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น