เป็นครั้งแรกที่พบบทกวีประกอบวีดีทัศน์ที่น่าสนใจฟังและชม บทกวีนั้นดีอยู่แล้ว แต่การสร้างวีดีโอประกอบบทกวี หรือประกอบเพลง ส่วนมากห่วยแตก ดูแล้วเสียอารมณ์ ซึ่งก็เป็นธรรมดาอยู่เอง เพราะคนเล่นเรื่องนี้ไม่ใช่มืออาชีพเหมือนพวกถ่ายหนังโป้ ซะเมื่อไหร่ นั่นเขาอยู่ในธุรกิจพันล้านหมื่นล้าน แต่วีดีโอประกอบบทกวี มือสมัครเล่นเขาทำกัน เพื่อความบันเทิงตัวเอง มิตรสหาย และคนคอเดียวกันในโลกอินเตอร์เนต รางวัลตอบแทนคงมีแต่คอมเม้นต์ชมเชยเท่านั้น
ผู้สร้างวีดีโอประกอบบทประพันธ์ “อาทิตย์อัสดง” ของ โบเดแลร์ ชื่อ นายโอเรียน เอสเชล เป็นชาวประเทศคอสตา ริกา ในอเมริกากลาง ทางใต้ติดประเทศปานามา ทิศเหนือติดนิคารากัว ตะวันออกมหาสมุทร์แอตแลนติค ตะวันตกมหาสมุทร์ปาซิฟิค เมืองหลวงชื่อ กรุงซาน โฮเซ ตั้งอยู่บนเส้นรุ้ง – latitude เดียวกันกับเมืองหลังสวน เพราะฉะนั้นประเทศเล็ก ๆ แห่งนั้นจะมีภูมิอากาศใกล้เคียงกัน มีพืชพันธ์คล้าย ๆ กัน กับที่บ้านผม เช่น มีปาล์มน้ำมัน มีดอกชบา มีภูเขาลำเนาไพร ลิงค่างบ่างชะนี เป็นต้น ที่สำคัญประเทศนั้นเขาอนุรักษ์ธรรมชาติขึ้นชื่อ จนมีคนเรียกว่าสวิสเซอร์แลนด์ของละตินอเมริกา(เมื่อไร ภาคใต้ของประเทศไทย จะได้ชื่อว่า สวิสเซอร์แลนด์แห่งอาเซียน? พูดเล่น ไม่ได้ทะเยอทะยานอะไรขนาดนั้นหรอก) – เขาใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ แต่ผู้คนจำนวนมากพูดภาษาอังกฤษได้ดี
แต่เดิมผู้เขียนติดตามชาวยูทูบคนดังของคอสตา ริกา ชื่อ Atua Moe มาก่อน ซึ่งสร้างวีดีโอว่าด้วยชีวิตประจำวันชนิด high energy - เล่นกระดานโต้คลื่น เที่ยวป่า เป็นต้น ต่อมา โอเรียน เอสเชล – Orion Eshel ก็มาปรากฏตัวในช่องของ อะตั้ว โมเอ เพื่อแนะนำช่องของเขาซึ่งมีแนวที่แตกต่างจากช่องของอะตั้ว เพราะโอเรียนเป็นนักดำน้ำด้วย ไม่ได้เล่นกระดานโต้คลื่นอย่างเดียว และมีวีดีโอเสนอบทกวี ซึ่งที่ช่องของอะตั้วไม่มี
The Sunset Of Romanticism - Poem by Charles Baudelaire
0:00:07 How beautiful a new sun is when it rises, 0:00:10 flashing out its greeting, like an explosion!
0:00:17 - Happy, whoever hails with sweet emotion
0:00:22 its descent, nobler than a dream, to our eyes!
0:00:32 I remember! I’ve seen all, flower, furrow, fountain,
0:00:38 swoon beneath its look, like a throbbing heart…
0:00:42 - Let’s run quickly, it’s late, towards the horizon,
0:00:48 to catch at least one slanting ray as it departs!
0:00:54 But I pursue the vanishing God in vain:
0:00:58 irresistible Night establishes its sway,
0:01:03 full of shudders, black, dismal, cold:
0:01:08 an odour of the tomb floats in the shadow,
0:01:15 at the swamp’s edge, feet faltering I go,
0:01:24 bruising damp slugs, and unexpected toads.
ผู้เขียนไม่ได้แตะต้องบทกวี เพียงแต่ได้สร้าง เวลาวีดีโอ ของคำประพันธ์แต่ละบรรทัด กำกับไว้ เพื่อทำหน้าที่มัคคุเทศก์ในการชมวีดีโอให้กับท่านผู้อ่าน จะได้ทราบว่า ณ เวลาใด เขากำลังอ่านบรรทัดไหน เมื่อแรกชมและฟัง ตัวเองจะสร้างไฟล์เวอร์ดเปิดไว้ข้าง ๆ ไฟล์วีดีโอ ระหว่างชมวีดีโอก็เหลือบตาดูไฟล์เวอร์ดไปด้วย เท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ได้รสชาติเพิ่มขึ้น.....อะไรประมาณนั้น
ผู้เขียนมีเพื่อนเป็นนักดำน้ำอยู่ที่ภูเก็ต ครั้งอยู่กรุงเทพฯเขาเป็นนักเรียนสาธิต ปทุมวัน ส่วนผู้เขียนเรียนเทพศิรินทร์ เพื่อนคนนี้ต่อมาเขาไปเรียนป.ตรีที่มหาวิทยาลัยอลาสกา ค่อนไปทางขั้วโลก มีป่าเขามาก ค่อนไปทางใกล้ชิดธรรมชาติ ต่อมาเขาก็ดำน้ำและสอนการดำน้ำลึกอยู่ที่ภูเก็ต เมียก็ดำน้ำด้วยกัน จนช่วยการสร้างสารคดีเกี่ยวกับการดำน้ำและโลกใต้น้ำ
นายโอเรียน เอสเชล เป็นนักดำน้ำ สร้างวีดีโอเรื่อง การดำน้ำในทะเลแดงไว้ด้วย เรื่องนี้ผู้เขียนไม่ประหลาดใจ เพราะรู้จากเพื่อนว่า นักดำน้ำเขาจะมีเป้าหมายการดำน้ำลึกในทะเลต่าง ๆ ซึ่งมีเกาะเต่า ใกล้ชุมพร กับที่ทะเลแดงอยู่ด้วย เขาถือเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำ เพื่อนเล่าว่าอย่างนั้น
อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนนักดำน้ำก็โทรมาจากภูเก็ต บอกว่าอยากได้หัวกะโหลกใส่ดำน้ำชนิดพิเศษ ที่สามารถติดต่อสื่อสารขึ้นมาเหนือน้ำได้ คือมันพูดอยู่ในกะโหลกใต้น้ำลึก คนบนผิวน้ำสามารถได้ยินได้ด้วยการรับสัญญาณที่ส่งขึ้นมา มันเล่าว่าเคยเห็นในรายการสารคดีต่างประเทศ แล้วมันติดตามสืบรู้ว่ามีขายที่ฝรั่งเศสแห่งเดียว มันใช้เวลาสืบหาสืบค้นอยู่แปดเดือนจึงได้ความและได้รายละเอียดข้อมูล มันขอให้ผู้เขียนพาไปซื้อ
ตอนนั้น ผู้เขียนเพิ่งจะกลับจากพามิตรสหายชาวกรุงเทพฯไปเที่ยวฝรั่งเศส-สเปน ก็บอกมันไปว่า เนี่ยะกูเพิ่งกลับจากปารีสอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง มึงจะให้พาไปเมื่อไหร่ มันบอกว่าเร็วที่สุดที่ผู้เขียนสะดวก จึงบอกมันว่าไปพรุ่งนี้เลย กูสะดวก
ประมาณหนึ่งสัปดาห์ต่อมา เมียมันจัดการตีตั๋วเรียบร้อยทุกอย่าง ตั๋วราคาถูกของสายการบินตุรกีที่เพิ่งบินมากรุงเทพฯ แต่ต้องไปต่อเครื่องที่อิสตันบูล รอหลายชั่วโมงที่นั่น ใกล้เวลาเดินทาง ผู้เขียนซึ่งเพื่อนมันส่งตั๋วมาให้แล้ว ก็นัดกับเพื่อนว่า เออแล้วเจอกันบนเครื่องเลย ไม่ต้องนัดที่สนามบิน ยุ่งเปล่า ๆ มันก็บอกว่าเออดี กูก็บินจากภูเก็ตไปต่อเครื่องที่กรุงเทพฯเลย พักนี้กูยุ่งอ่ะ
ในวันเดินทาง หลังจากที่เครื่องบินตุรกีขึ้นจากกรุงเทพฯแล้วนับชั่วโมง จนกินอาหารที่เขาเสิร์ฟบนเครื่องแล้ว ผู้เขียนก็ยังไม่เห็นเพื่อน นึกในใจว่า น่ากลัวกูนั่งเครื่องบินเล่นไปปารีสเปล๋า ๆ แน่เลย จึงได้ลุกจากที่นั่ง ออกไปเดินเที่ยวหามัน เพื่อดูว่ามันมารึเปล่า ถ้าไม่มา จะได้เตรียมตัวเตรียมใจว่าถึงปารีสก็จะหาทางบินกลับเลย
ปรากฏว่า พบมันนอนหลับซุกอยู่กับที่นั่งริมหน้าต่างด้านหน้าสุดของชั้นประหยัด จึงสะกิดปลุกมัน แล้วบอกมันว่า อ๋อมึงมาเหมือนกันหรือ กูนึกว่าไม่มา มันก็ตื่นขึ้นมาอู้อี้บอกว่ากูเหนื่อยฉิบหายเลย ง่วงนอนมาก ๆ เลย แสดงว่ามัน sleep deprived มาหลายวัน ผู้เขียนบอกว่า มึงมาก็ดีแล้วนอนไปเหอะ ถึงอิสตันบูลแล้วกูจะมาหา พามึงไปต่อเครื่อง
เราเดินทางถึงปารีสโดยสวัสดิภาพ ปรากฏว่าบริษัทที่ขายลูกกะโหลกที่ว่านั่นอยู่นอกเมือง ไกลมาก ผู้เขียนพามันนั่งรถไฟชานเมืองออกไปจนสุดสาย แล้วเรียกแท้กซี่จากที่นั่นต่อไป ค่าแท้กซี่จะได้ถูกลง บริษัทนั้นมันรับเงินสดเท่านั้น คิดเป็นเงินไทยประมาณสองแสนกว่าบาท เมียเพื่อนมันเตรียมเงินตราต่างประเทศเป็นเงินสดมาเรียบร้อย - มันเก่งนะ อีนั่นหนะ
บริษัทตั้งอยู่ในทุ่งข้าวสาลี เลยไปจากสุดสายรถไฟชานเมืองอีกไกล ในการซื้อขาย บริษัทมันขอตรวจพาสปอร์ต ถ่ายเอกสารไว้ และซักไซ้ไล่เรียงเพื่อน พอสมควร แลกหมูแลกแมวกันเสร็จ ผู้เขียนก็ขอให้คนบริษัทช่วยโทรเรียกแท้กซี่ ให้ไปส่งเราที่สถานีรถไฟชานเมืองเพื่อเข้าปารีส
ผู้เขียนถามเพื่อนว่า ที่มานี่มึงไม่ให้เงินติดกระเป๋า – per diem กะกูมั่งเลยหรือ เพื่อนมันบอกว่า มึงมากะกู ค่ารถเมล์รถไฟเครื่องบินอะไรกูก็ออกให้ทุกอย่าง แดกก็แดกอยู่กะกู มึงไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลย ยังจะมาเอา per diem ส้นตีนอะไรกะกูอีกล่ะ
ผู้เขียนจึง หุบปาก-จำนนต่อเหตุผล เพราะถ้าไปเถียงมันว่า ก็ค่าแรงงัย มันก็จะบอกว่า มึงออกแรงอาไร๊ ทุก ๆ วันมึงก็ต้องเดินไปเดินมาอยู่แล้ว แล้วมึงก็หายใจเข้าหายใจออกประจำอยู่แล้ว มึงไม่ได้ออกแรงอะไรเพิ่มเลย-ไอ้ส้นตีน
ค้างที่ปารีสคืนหนึ่ง เวลาว่างก็พามันไปดูหนังโรง กับพาไปซื้อกระเป๋าไว้ใส่หัวกะโหลกดำน้ำจากร้านค้าประเภทยี่สิบบาททุกอย่าง อะไรประมาณนั้น เพราะเพื่อนไม่ใช่ fan ของปารีส คือไม่ได้สนใจใยดีอะไรกับกรุงปารีส มันเคยอยู่อลาสกา ชอบธรรมชาติ เวลานั้นมันก็เป็นครูสอนดำน้ำ ชอบดำน้ำลึก มันบอกว่าอยู่ที่ก้นทะเล เงียบดี เงียบสงัดดีจริง ๆ มันไม่สนใจพิพิธภัณฑ์ ลูฟ หรือ ฯลฯ ของปารีส
ครั้นกลับถึงกรุงเทพฯ ต้องผ่านด่านศุลกากร ผู้เขียนถามมันก่อนจะถึงด่านว่า มึงจะเอาของออกไปยังไงเนี่ยะ ค่าภาษีหูตูบ มันบอกว่าเดี๋ยวมีพรรคพวกมารอรับช่วยพาออกไป ผู้เขียนก็พยักหน้า แต่ไม่แน่ใจ.....เพราะรู้อยู่แก่ใจว่า เกี่ยวกับ people skills ไอ้นี่สอบตก
จริงดังคาด สักครู่ หลังจากที่มันคุยโทรศัพท์กับเมียที่รออยู่ด้านนอก มันก็บอกว่าพรรคพวกสากกะเบือที่ว่านั่น ไม่มา
ผู้เขียนนึกในใจว่า กูนึกกลัวอยู่แล้วเชียว และผู้เขียนจึงได้แสดงความสามารถ รับภาระมาไว้กับตัว บอกมันว่า เอากระเป๋าหัวกะโหลกมา เดี๋ยวกูพาออกเอง ซึ่งมันมอบให้ทันทีเพราะมันชื่นชมผู้เขียนเรื่อง people skills
เจ้าหน้าที่ตรวจเป้เดินทางของผู้เขียนแล้ว พี่แกก็รูดซิปเปิดกระเป๋าใส่หัวกะโหลก พี่แกเอามือล้วงเข้าไปคลำหัวกะโหลก มองหน้าผู้เขียนแล้วถามว่า อะไรนี่? ผู้เขียนก็มองหน้าคุณพี่ผู้นั้นโดยซื่อ และตอแหลตอบไปว่า ขอผ่านเถอะครับพี่ ของมหาวิทยาลัยบูรพา.....
คุณพี่แกพยักหน้า ผู้เขียนก็ฉวยกระเป๋าหัวกะโหลกเดินฉลุยออกมา เพื่อนมันไม่ขอบใจผู้เขียนสักคำเดียว แต่ไม่เป็นไร รู้ว่ามันขอบใจอยู่ในใจ
เดฟ นาพญา
บทความนี้ เผยแพร่อยู่ที่
โปรด ช่วยแชร์ลิงก์ - ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น