หลายคนมองชีวิตชนบทว่าโรแมนติค ใกล้ชิดธรรมชาติ
เรียบง่าย มีความสุข
แต่ว่าคนเรานั้นปรุงแต่งขึ้นมาจากนานาปัจจัยที่ไม่เหมือนกัน -
นี่มองแบบพุทธ
ถ้าจะมองแบบคติที่ว่าพระเจ้าสร้างโลกและมนุษย์ ก็อาจพูดได้ว่า พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมาด้วยรูปกายเหมือนพระองค์ก็จริง
แต่ทรงสร้างคนแต่ละคนแตกต่างกัน
สรุปว่าชีวิตชนบทไม่ได้เหมาะแก่คนทุกคน
บางคนอยู่ได้ บางคนอยู่ไม่ได้ ตัวอย่างใกล้ ๆ ในละแวกบ้านเดียวกับผู้เขียนก็มี
เขาขายที่ขายสวนกลับไปอยู่ในเมือง และคนท้องที่นี้เอง ที่เขาไม่ชอบจะอยู่ก็มี เขาก็อพยพเข้าเมือง
เพื่อนผู้เขียนบางคนทำอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น
ชีวิตชนบท คงไม่ได้โรแมนติคจริง สำหรับทุกคนเสมอหน้ากัน เพื่อนสตรีชาวกรุงผู้หนึ่ง เคยบอกผู้เขียนว่า
เธออยากมาเที่ยวที่บ้านผู้เขียน เธอจะมา “นุ่งกระโจมอก” อาบน้ำในห้วย
ผู้เขียนได้แต่อุทานอยู่ในใจว่า “ฉิบหายแล้วกู”
สำหรับความใกล้ชิดธรรมชาตินั้น เคยเขียนเล่าแล้วว่า ใกล้ชิดธรรมชาติหมายความว่า จะต้องปรับตัวเข้ากับอุณหภูมิที่ผันผวน ผันแปร ตลอดทั้งวัน รวมทั้งความชื้นในอากาศด้วย
บางท่านกล่าวว่าน่าจะดีแก่ระบบภูมคุ้มกัน – immune system แต่นั่นต้องใช้เวลานาน นับเดือนนับปี ไม่ใช่วันสองวันหรือสัปดาห์สองสัปดาห์
ดังนั้นช่วงเวลาที่ใช้เพื่อการปรับตัวในแง่ของร่างกาย
คนบางคนก็ไปไม่รอดเสียแล้ว ที่ตายไปก็มีนะจะบอกให้ ไม่ได้แกล้งพูด
ผู้เขียนเตรียมกายและใจ ก่อนจะมาปักหลักอยู่ที่บ้านสวนในชนบทนอกเมืองหลังสวน
ซึ่งเป็นบ้านเดิม-บ้านเกิดแต่ว่าได้จากไปนาน จึงต้องเตรียมตัวด้วยการฟิตร่างกาย
เดินออกกำลังกายอยู่ในกรุงเทพฯทุกวัน เริ่มวันแรกเดินได้เพียงเจ็ดร้อยเมตร
เพิ่มระยะทางขึ้นเรื่อย ๆ เป็นหนึ่งกิโลเมตร สอง-สาม-สี่-ห้า—ถึงสิบกิโลเมตร
และลดน้ำหนักไปพร้อมกัน ด้วยการดูแลตัวเองเรื่องอาหาร ภายในหนึ่งปีลดน้ำหนักลงให้
20 กิโลกรัม พร้อมกับร่างกายที่ฟิตขึ้น
หลังจากนั้นใช้เวลาเลิกบุหรี่ที่สูบมานานนับสิบ ๆ ปี ใช้เวลาลด-ละ-เลิก พร้อมกับไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำเป็นประจำ ประมาณหนึ่งปีเลิกบุหรี่ได้ ในระหว่างสองปีนั้นก็เรียนรู้เรื่องการทำสมาธิ และฝึกทำสมาธิ รวมทั้งได้หาอุบายควบคุมจิตใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน ด้วยการไปลงเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมกับเรียนภาษาฮินดีไปด้วย ใช้เวลาถึงปีครึ่งเพื่อเรียนเขียนอักขระเทวนาครี ในขณะที่บางคนเขามีความสามารถ เขาเรียนที่โรงเรียนภารตะวิทยา ที่ใกล้เสาชิงช้า เขาเรียนแค่หกเดือนก็เขียนได้ ครั้นเมื่อประเมินว่าตัวเองพร้อมแล้ว ผู้เขียนจึงได้กลับมาอยู่บ้านสวนในชนบท
หลังจากนั้นใช้เวลาเลิกบุหรี่ที่สูบมานานนับสิบ ๆ ปี ใช้เวลาลด-ละ-เลิก พร้อมกับไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำเป็นประจำ ประมาณหนึ่งปีเลิกบุหรี่ได้ ในระหว่างสองปีนั้นก็เรียนรู้เรื่องการทำสมาธิ และฝึกทำสมาธิ รวมทั้งได้หาอุบายควบคุมจิตใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน ด้วยการไปลงเรียนกฎหมายที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง พร้อมกับเรียนภาษาฮินดีไปด้วย ใช้เวลาถึงปีครึ่งเพื่อเรียนเขียนอักขระเทวนาครี ในขณะที่บางคนเขามีความสามารถ เขาเรียนที่โรงเรียนภารตะวิทยา ที่ใกล้เสาชิงช้า เขาเรียนแค่หกเดือนก็เขียนได้ ครั้นเมื่อประเมินว่าตัวเองพร้อมแล้ว ผู้เขียนจึงได้กลับมาอยู่บ้านสวนในชนบท
ชีวิตชนบทมีความวิเวกก็จริง แต่ในความวิเวกมันมี background
noise ที่ระงมอยู่ตลอดเวลา นะจะบอกให้
สรรพสำเนียงเสียงที่เป็นฉากหลังนั้น คือ อะไร? ผู้เขียนเคยนับจำนวนนกนานาชนิดที่บินอยู่ในสวนหรือบินผ่านสวน
นับได้ถึงประมาณยี่สิบชนิด บางตัวบางชนิดเล็กเท่าหัวแม่มือ
บางตัวสีสันสวยงามเช่นนกกระเต็น มีนกยางขี้ควายสีขาวบินเหนือลำห้วย
มีนกหางตะไกรที่ทำเสียงได้มากเสียง บางเสียงทำเหมือนแมวร้อง แล้วนกที่โผจากต้นไม่ต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่งและส่งเสียงดัง
คือ นกกระปูด(ภาษาใต้ที่บ้านเรียกว่า นกคูด) บนฟ้าสูง ๆ มีนกบินหลา(นกกางเขน) ฯลฯ
นอกจากเสียงนกกาแล้วยังมีเสียงกบเขียดหริ่งหรีดเรไร
ระงมทั้งวัน ถ้าเรามีโสตประสาทที่มีสติสงบบระงับ เราจะได้ยินเสียงตลอดเวลา
ประเด็นนี้ผู้เขียนฟังทางทฤษฎีมาจากฝรั่งคนหนึ่ง
เขาเขียนไว้ว่าในป่าเขตร้อน หรือ tropical forest นั้น มันไม่ได้เงียบเหมือนนั่งดูรูปแผ่นโปสการ์ด เขาบอกว่าจริง ๆ แล้ว It
is very noisy.
ในภาคปฏิบัติผู้เขียนสดับตรับฟังด้วยหูตนเอง ขอยืนยันตามนั้นว่า ในความวิเวกของชนบทที่บ้าน มันจะมี background noise อยู่ตลอดเวลา มันไม้ได้เงียบสงัด ยกเว้นเวลาที่น้ำท่วม เราจะประจักษ์แก่ใจ รู้ซึ้งถึงความเงียบ เวลาน้ำท่วมทั่วทั้งทุ่งทั้งสวน background noise จะหายไป มันจะ “โคดเงียบ” สงัดวิเวกวังเวง เงียบจริง ๆ ปราศจากสรรพสำเนียงที่เคยระงมคุ้นหู มันเงียบมากจนนึกระแวงว่า หูกูฝาดไปเปล่าเนี่ย?
ในภาคปฏิบัติผู้เขียนสดับตรับฟังด้วยหูตนเอง ขอยืนยันตามนั้นว่า ในความวิเวกของชนบทที่บ้าน มันจะมี background noise อยู่ตลอดเวลา มันไม้ได้เงียบสงัด ยกเว้นเวลาที่น้ำท่วม เราจะประจักษ์แก่ใจ รู้ซึ้งถึงความเงียบ เวลาน้ำท่วมทั่วทั้งทุ่งทั้งสวน background noise จะหายไป มันจะ “โคดเงียบ” สงัดวิเวกวังเวง เงียบจริง ๆ ปราศจากสรรพสำเนียงที่เคยระงมคุ้นหู มันเงียบมากจนนึกระแวงว่า หูกูฝาดไปเปล่าเนี่ย?
เสียงนกกากบเขียดหริ่งหรีดเรไรในชนบทที่บ้านนั้น
บางท่านเรียกอย่างโรแมนติคว่า “symphony of the jungle”
เดฟ นาพญา
บทความนี้ เผยแพร่อยู่ที่
โปรด ช่วยแชร์ลิงก์ - ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น