VIDEO
คอมเมนนี้ แปลจับใจความคำสอนในวีดีโอ
“เลว”
แปลตรงตัวจาก “ bad” ซึ่งคำแปลภาษาไทยฟังดูหนักหน่วงไปนิดนึง
“bad” ไม่ถึงกับเลวมากมายอะไร น่าจะแปลว่า “ไม่ดี” จะดีกว่า
แต่ถ้าแปลว่า ไม่ดี ผู้เขียนบลอคเห็นว่า
จะเบาไปหน่อย ก็เลยเลือกที่จะใช้คำว่า “เลว” ในความหมายว่า “ไม่ดี”
ไม่ใช่ในความหมายว่า ชั่วช้า
คำว่า “นักเขียน”
ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงนักเขียนรางวัลโนเบล หรือศิลปินแห่งชาติ
แต่หมายถึงคนรักการขีดเขียนทุกคน รวมทั้งผู้เขียนบลอคนี้ด้วย
และหมายถึงคนรักการขีดเขียนในรูปแบบ ชนิด หรือ genre และสไตล์ต่าง
ๆ นานา
ท่านว่า “นักเขียนที่เลว คือ
นักเขียนที่ไม่มีอะไรจะเขียน”
“Bad writers have nothing to say.”
คือ นักเขียนที่ตัวเองไม่มีอะไรจะเขียน
คอยแต่จะก็อปผู้อื่นอยู่ร่ำไป โดยที่ไม่รู้จักที่จะคิดเองบ้างเลย
เช่น พบเห็นปรากฏการณ์งานขายดีฤดูที่แล้ว
ตัวก็จะเขียนอย่างนั้นบ้าง หรือว่าพักนี้เขา ฮิต-อิน-ฟิน กันเรื่องอะไร
กูก็จะไปทางนั้นกับเขาบ้าง ครูเล่าว่า หลังจากเรื่อง Boys
Don’t Cry ออกมาทำเงินเป็นกอบเป็นกำ ปรากฏว่าในวงการฮอลลีวูด
ทะลักท่วม เอ่อนอง หลากไปด้วยจดหมายเสนองานทำนองคล้าย ๆ กัน อันได้แก่
เรื่องพิสวาสแปลก ๆ ของคนที่อยู่อาศัยในเมืองเล็ก ๆ ในชนบทของสหรัฐอเมริกา
คนรักการขีดเขียนที่เลว – bad
writers – หวังยอดขาย มากกว่าที่จะกังวลเรื่องความคิดความอ่าน
จินตนาการ หรือศิลปะ
นักเขียนที่เลวแม้จะมีผลงานมาแล้วยี่สิบเรื่อง
ครูบอกว่า ใช่ว่าเขาจะมีฝีมือการเขียน – the craft of exposition
เรื่องนี้ – the craft of
exposition – เป็นเรื่องสำคัญขั้นต้นที่คนรักการขีดเขียน
หรือนักเขียน จะต้องฝึกฝน สร้างสมประสบการณ์
ครูท่านอ่านงานไม่กี่บรรทัดท่านก็สามารถรู้ได้ว่า
คนเขียนมีฝีมือในการนำเสนอเรื่อง มากน้อยเพียงใด หรือว่าไม่มีเลย
ท่านบอกต่อไปว่า
ผู้ที่มีฝีมือในการนำเสนอเรื่องราว – the craft of exposition – เขาเข้าใจลึกซึ้งถึงฝีมือการนำเสนอเรื่อง เขารู้จักที่จะดึงความสนใจ
เรียกร้องความสนใจของผู้อ่านเข้ามาในเรื่องราวที่เขียน
โดยไม่ได้ใช้วิธีฉุดกระชากลากถูเข้ามา หรือด่วนนำเข้ามาก่อนเวลาอันควร
แต่จะทำให้ผู้อ่านใจจดใจจ่อกับเรื่องด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ด้วยจิตใจที่รู้จักเห็นอกเขาอกเรากับเพื่อนมนุษย์
กระบวนการนี้เขาจะเลียบเคียงทำ
ทำอ้อม ๆ แลไม่เห็น และผู้อ่านไม่รู้ตัว
เทคนิค หรือ ฝีมือ เรื่องนี้อย่างเดียว
ท่านว่าต้องใช้เวลาฝึกฝนนานนับเป็นปี ๆ ไม่ใช่วันสองวัน หรือเดือนสองเดือน
นั่นเป็นเรื่องฝีมือ ต่อไปเป็นเรื่อง ศิลปะ
หรือจินตนาการ
ครูสอนว่า เวลาเขาแข่งกีฬาโอลิมปิคบางประเภท
เช่น สะเก็ตศิลป์ หรือ ยิมนาสติค
จะมีคณะกรรมการผู้ให้คะแนนคอยพิจารณาการแสดงความสามารถของนักกีฬา ครูถามว่า
รู้มั้ยกรรมการตัดสินเขาใช้เกณฑ์อะไรมาพิจารณาให้คะแนน กรรมการตัดสินเขา “มองหาอะไร”
เพื่อให้คะแนน 1 ถึง 10
ครูบอกว่า กรรมการอาจใช้เกณฑ์ เช่น
ตัดสินความรู้สึก อาการผ่อนคลายไม่เกร็งระหว่างการแสดง พิจารณาลักษณะที่ส่อความมั่นใจระหว่างการแสดง
ดูความมีสมาธิในการแสดง แล้วอาจพิจารณา “มุมตก” ของใบมีดสะเก็ต
ว่าตกลงกับพื้นน้ำแข็งด้วยองศาประมาณเท่าไร เป็นต้น
ฉันใดก็ฉันนั้น การเขียนก็เป็น “การแสดง”
ชนิดหนึ่ง หรือเป็น “ performance” อย่างหนึ่ง เหมือนกับกีฬาสะเกตน้ำแข็ง
หรือ ยิมนาสติค หรือการเต้นรำ ความแม่นยำเที่ยงตรงของประเด็นการเขียน จังหวะจะโคน
นี่ก็น่าจะใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินผลงานเขียนได้
VIDEO
การเต้นรำก็เป็นการแสดงออกด้านฝีมือ (craftmanship) เช่นเดียวกับการเขียน และก็อาจเป็นการแสดงออกเชิงศิลปะ (art) ด้วยก็ได้ การเขียนก็เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้น
ท่านผู้อ่านอาจจะไม่มีวันรู้ได้ว่า คนเขียนหนังสือได้แรงบันดาลใจมาจากไหน? อาจได้จากการชมการเต้นรำประกวดข้างบนนั้น
หรือจากการชมภาพเขียน หรือฟังเพลง หรือดูลิเก หรือดูมโนราห์หนังตะลุง หรือฟังมโหรีเพลงบีโธเฟน
- ซึ่งท่านว่าขี้มักจะจบแบบสุขนาฏกรรม – happy ending
ครูพูดว่า ฝีมือ หรือ craftsmanship
เป็นเรื่องหนึ่งแต่มีอีกเรื่องหนึ่ง คือ นักเขียนมีอะไรจะพูดจะเขียนหรือเปล่า?
(something to say)
ครูยกตัวอย่างคนมีฝีมือเลอเลิศ
แต่ไม่มีอะไรจะพูด ได้แก่นายสตีเวน สปีลเบิร์ก คน ๆ นี้ไม่มีอะไรจะพูด
เขามีจิตใจหนังสือการ์ตูน – a comic book mind เขาไม่มีสาระอะไรจะบอกกล่าว
กระนั้นก็ดี
ยังมีคนอีกหลายคนที่ต่อสู้ดิ้นรนอยู่กับการสร้างสมฝีมือ โดยที่เขามี passion
ที่บางคนแปลว่า หลงใหล บางคนแปลว่า กระสัน เขามี insight เขาเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์ มีจินตนาการอันวิเศษถึงโลกทางเลือก
คนพวกนี้มีอยู่ในงานเขียนทุกชนิดงาน( any genre)
เห็นมั้ยล่ะว่า การมีฝีมือใช่ว่าจะเป็นหลักประกันว่า
นักเขียนจะสร้างผลงานได้ยอดเยี่ยม
แต่นั่นแหละ ครูสรุปว่า
ดูเหมือนคนเราถ้าไร้ฝีมือเสียแล้ว ก็มักจะขาดจินตนาการด้วย ดังนั้น นักเขียนที่เลว(ไร้ฝีมือ)
จึงมักจะไม่มีอะไรจะพูดจะเขียนไปพร้อม ๆ กันเป็นธรรมดา (ครูหัวเราะ แต่ผู้เขียนบลอค หัวเราะไม่ออก...)
เดฟ นาพญา
บทความนี้ เผยแพร่อยู่ที่
โปรด ช่วยแชร์ลิงก์ - ขอบคุณครับ