open letter no 2

Chicago 2 why Chicago

Chicago 2 ทำไม ผมต้องดัดจริต ฟังวิทยุชิคาโก ด้วย? ๑.    ผมติดนิสัยชอบฟังวิทยุตปท. จากแดนไกลเป็นนิสัยมาแต่มัธยม เพื่อฝึกภาษา ประกอบกับมีผู...

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

หล่อแบบฝรั่งเศส – หล่อโดยไม่ได้ตั้งใจ

ที่จริงเรื่องนี้กินความถึงผู้หญิงด้วย  กล่าวคือผู้หญิงฝรั่งเศสก็สวยแบบ “สวยไม่ได้ตั้งใจ” ได้เหมือนกัน  แต่เนื่องจากความรักสวยรักงามถือว่าเป็นธรรมชาติของหญิงอยู่แล้ว  แม้พวกเธอ “ตั้งใจ” จะทำสวยก็ไม่มีใครเขาถือสา  การที่ผู้หญิงสักคนหนึ่งพยายามจะทำสวย ไม่เป็นประเด็นแห่งการติฉินนินทาหรือวิพากษ์วิจารณ์  เรื่องนี้จะเป็นที่น่าสะดุดอยู่ก็เฉพาะเพศชาย หรือเกย์ก็ได้ คือผู้ชายฝรั่งเศสจะต้องหล่ออย่าง “ไม่ได้ตั้งใจ” เท่านั้น - จึงจะมีค่า  หากคนเขาสังเกตรู้เมื่อไรว่า ชายใด “ตั้งใจ” จะทำหล่อ  เขาผู้นั้นจะราคาตกทันที

ผู้ชายฝรั่งเศสจึงมีภาระในชีวิตอยู่อย่าง  คือทุกขเวทนาอยู่แต่ว่า ทำอย่างไรตัวเองจึงจะหล่อได้ อย่างชนิดแลดูเหมือนกับว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำหล่อ  แล้วถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ก็จะต้องมีท่าทางฉลาดช่างคิด  ซึ่งตรงกันข้ามกับอเมริกันที่ถือกันว่า ถามปุ้บต้องตอบปั้บ จึงจะฉลาดและจริงใจ  สำหรับคนฝรั่งเศสนั้นไม่จำเป็นเลยว่าเมื่อถูกถามปุ้บ เป็นต้องตอบปั้บ  เมื่อถามปุ้บ - อาจแสร้งทำเป็นใช้ความคิดสักนิดแล้วค่อยตอบ จึงจะฉลาด  ส่วนพวกถามปุ้บ ๆ ตอบปั้บ ๆ นั้น ทำบ่อย ๆ เข้า เขาจะเห็นว่าโง่นิด ๆ และปัญญาอ่อนหน่อย ๆ

การพยายามทำหล่ออย่างไม่ได้ตั้งใจนี้  ชายชาวฝรั่งเศสจะต้องเสียเวลา เปลืองพลังงาน และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย มิใช่น้อย ๆ  แต่คนฝรั่งเศสก็จะเรียนรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ

เทศกาลปีใหม่ตกอยู่ในหน้าหนาว  การแต่งเนื้อแต่งตัวของผู้คนก็จะค่อนข้างทึบ ๆ ทึม ๆ เสื้อผ้าต้องหนาเทอะทะขึ้นเพื่อรักษาร่างกายให้อุ่น ป้องกันความหนาวเย็นของลมฟ้าอากาศ  เนื้อตัวและทรวดทรงองค์เอวจะถูกห่อหุ้มมิดชิด  สีเครื่องนุ่งห่มชั้นนอกก็จะใช้สีตุ่น ๆ มืด ๆ เป็นธรรมานุธรรมะปฏิบัติของการแต่งตัวในฤดูนี้  แล้วพวกทำหล่อแบบไม่ได้ตั้งใจ - จะมีทางออกอย่างไร?

นักเขียนชายชาวฝรั่งเศสผู้หนึ่ง  เขียนหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตและนิสัยใจคอของชาวปารีส  เวลานี้ได้กลายเป็นหนังสือขายดีและถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งนักท่องเที่ยวอเมริกันประเภทปัญญาชน และรักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนรักเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ จะชอบอ่านระหว่างเดินทางมาท่องเที่ยวในฝรั่งเศส  ในรายการสัมภาษณ์ทางอินเตอร์เนต สตรีชาวอเมริกันผู้หนึ่ง ตั้งคำถามกับนักเขียนชายชาวฝรั่งเศสผู้นั้น ว่า

“คุณช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม  เวลาผู้ชายฝรั่งเศสเขาผูกผ้าพันคอ เขาทำราวกับว่า(หล่อ)ไม่ได้ตั้งใจ  พวกเขาทำได้อย่างไร?”

นักเขียนฝรั่งเศสผู้นั้น อึกอักเล็กน้อย ได้แต่หัวเราะเกลื่อนกลืน  แล้วพูดว่าผมเข้าใจ--ผมเข้าใจคำถามของคุณว่าคุณหมายความว่าอะไร  แต่แล้วเขาก็ไม่ยอมตอบคำถามที่พยายามเจาะลึกว่าการทำเป็นหล่อแบบไม่ได้ตั้งใจในหน้าหนาว โดยอาศัยศิลปะการผูกผ้าพันคอของชายฝรั่งเศสนั้น เขาทำกันอย่างไร?

ผู้เขียนบทความนี้(แดง ใบเล่)สะเออะคิดว่าตัวเองพอจะรู้ว่า ทำไมนักเขียนฝรั่งเศสผู้นั้นจึงหลีกเลี่ยงเบี่ยงบ่าย ที่จะตอบคำถามแก่สตรีอเมริกัน  ทั้งนี้ก็เพราะว่า ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นความลับระดับชาติของฝรั่งเศส  การเปิดเผยเรื่องนี้เท่ากับกระทำการทรยศต่อชาติ

ข้าพเจ้าผู้เป็นเจ้าของบล็อคนี้ ไม่ใช่คนฝรั่งเศส  เพราะฉะนั้นเพื่อเห็นแก่มิตรรักนักอ่านทั้งหลายผู้ที่ต้องการจะทราบความลับเรื่องการผูกผ้าพันคอแบบหล่อไม่ตั้งใจ  ข้าพเจ้าจะได้นำมาแฉในลำดับต่อไป รับรองว่าจะเปิดเผยหมดเปลือก แฉกันอย่างโจ่งแจ้ง โจ๋งครึ่ม

[ยังมีต่อ--โปรดติดตามอ่านสุดสัปดาห์หน้า ศุกร์ที่ 8 มกรา  59 ครับ]  


ว่ากันคร่าว ๆ ผ้าพันคอมีสองชนิดหลักคือ เอ ช้าฟ  กับ ฟูลา  ชนิดที่เราจะพูดถึงคือผ้าพันคอชนิด เอช้าฟ - écharpe หรือ scarf ในภาษาอังกฤษ ซึ่งชายหรือหญิงก็ใช้ได้ แต่ตามปกติบุรุษจะใช้ผ้าพันคอประเภทนี้มากกว่าสตรี  ผ้าจะมีลักษณะเป็นแถบยาว คล้ายกับสายสะพาย  ส่วน ฟูลา นั้นโดยมากจะเป็นผ้าผู้หญิง มีลักษณะเป็นผืนสี่เหลี่ยม ใหญ่พอสมควร  ผู้ชายบางคนก็ใช้แต่เป็นส่วนน้อย ซึ่งบทความบทนี้จะไม่ขอกล่าวถึง

การพันคอด้วย เอ ช้าฟ ทำได้หลายวิธี สุดแล้วแต่ใครจะพัน หรือจะสักแต่ว่าพัน ๆ หรือพันมั่ว ๆ ก็ไม่มีใครว่า แต่เราจะเน้นวิธีพันคอของพวกทำหล่อเหมือนไม่ได้ตั้งใจ


โปรดชมวีดีโอต่อไปนี้ ประธานาธิบดี ฟร็องซัว ออลล็ง กำลังกล่าวไว้อาลัยผู้เสียชีวิต จากการสังหารหมู่ที่ปารีส เมื่อ 13 ธันวาคม 2558  ให้สังเกตผ้าพันคอสีขรึม กับสังเกตวิธีพันคอของท่านประธานาธิบดี  วิธีพันคอวิธีนี้เป็นการตั้งใจ จงใจ พิถีพิถัน สไตล์เป็นทางการและผู้สูงวัยนิยมทำ  นำมาให้ท่านชมเป็นตัวอย่าง เพื่อประโยชน์ในการเปรียบเทียบ  การพันคอสไตล์นี้เราพบได้ทั่วไปไม่เฉพาะแต่ในงานพิธี  แม้ตามท้องถนนก็มีให้เห็น  ส่วนมากก็มักจะพบในคนอายุราว ๆ สามสิบห้าและกว่านั้น  ส่วนผ้าพันคอก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นสีมืด ๆ เสมอไป



ลิงก์วีดีโอhttps://www.youtube.com/watch?v=lqTtAsiiCFc


วีดีโอถัดไปนี้ แสดงตัวอย่างการพันคอแบบ หล่อไม่ตั้งใจ ของนายดาวิด ลาโรช นักพูดปลุกระดมให้คนสู้ชีวิต เขามีชื่อเสียงในวงการเล็ก ๆ วงการนี้พอสมควรในเวลานี้ ทั้งในฝรั่งเศสและประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส เช่น ในมอรอคโค เป็นต้น  เขาไปขายหลักสูตรฝึกอบรมของเขาที่นั่นด้วย


ลิงก์วีดีโอ: https://www.youtube.com/watch?v=z7b4QQCee24

ในวีดีโอ นายดาวิด ลาโรช กำลังพูดปลุกระดมอยู่หน้าประตูชัย กรุงปารีส  เขามีอะพาร์ตเมนต์และสตูดิโอสำหรับสร้างผลงาน และสร้างหลักสูตรฝึกอบรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ อยู่ไม่ไกลจากประตูชัย  แสดงว่าเขามั่งมีไม่น้อยเลย  มหาเศรษฐีฝรั่งเศสคนหนึ่งมีนิวาสน์สถานอยู่แถว ๆ นั้น คือ มาดาม เดอ รอธชิลด์ เจ้าของโรงบ่มไวน์ เดอ รอธชิลด์ เหล้าไวน์ของเธอราคาขวดละหลายบาท – ถ้าคิดเป็นเงินไทย  สำหรับนายดาวิด ลาโรช นั้น ได้ข่าวแว่ว ๆ ว่าคุณปู่ของเขาเป็นเจ้าของห้างสินค้าไฮแฟชั่น ยี่ห้อ “กี ลาโรช”  เรื่องนี้จะเท็จจริงอย่างไร ไม่ขอรับรอง

นายดาวิด ลาโรช เป็นคนหน้าตาธรรมดา เพราะฉะนั้น การพันคอและแต่งตัวแบบหล่อไม่ตั้งใจ จะช่วยให้เขาดูดีกว่าธรรมดา  เสื้อแจ็คเกตสีมืดที่สวมอยู่ ท่านที่สนใจเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวทั้งหลาย ดูก็รู้ว่าต้องเป็นสินค้าไฮแฟชั่น ไม่ใช่โบ้เบ้ (ประโยคหลัง พูดถึงมิติของเสื้อผ้า ใช้ภาษาต่างประเทศทั้งหมด ไม่มีภาษาไทยเลย ทั้งคำว่า “ไฮแฟชั่น” และ “โบ้เบ้”)

ผ้าพันคอที่ใช้ มีสีน้ำเงินเข้ม ขรึมเข้ากับแจ็คเกตก็จริงอยู่  แต่ท่านก็จะเห็นว่า มีเหลื่อมสีขาวหม่นปนอยู่ด้วย  สำหรับชายชาวฝรั่งเศส - ผ้าพันคอบ่งบอกถึงบทกวี ความเป็นเจ้าบทเจ้ากลอน ตัวผ้าพันคอนั้นเองเกือบจะเหมือนบทกวีหนึ่งบท  สำหรับหญิงฝรั่งเศสผ้าพันคอคือความงามอันนิรันดร์ ความงามที่เป็นอกาลิโก  ชายและหญิงฝรั่งเศสรัญจวนใจกับการที่ปลายผ้าพันคอของตน จะปลิวสะบัด หวั่นไหวไปตามลมหนาวอันแปรปรวน และทรมานใจของนครปารีส

โปรดสังเกตลักษณะการพันคอของนายดาวิด ลาโรช ซึ่งไม่เหมือนกับวิธีพันคอของประธานาธิบดี ออลล็ง ในวีดีโอก่อนหน้า  นายดาวิด ลาโรชแสดงตัวอย่างแบบฉบับของการพันคออย่างหล่อไม่ได้ตั้งใจและหล่อไม่รู้ตัว ของชายชาวฝรั่งเศส -- ที่สตรีอเมริกันผู้นั้นถามถึง

ท่านผู้อ่านสตรีที่ใช้ผ้าพันคอชนิด เอช้าฟ ในหน้าหนาวเมืองไทย  ท่านก็สามารถพันคอสไตล์นี้ได้เหมือนกัน  แม้อาจจะทำให้ท่านไม่ดูหวานอย่างการพันคอด้วยผ้าพันคอชนิด ฟูลา  คือถ้าใช้เอช้าฟพันคอในหน้าหนาวนี้ ท่านจะเสนอตัวต่อโลกออกไปในแนวสตรีปัญญาชน มีการศึกษาสูง หรือผู้บริหารกิจการชนิดลุย ๆ หรือทำงานบริษัทโฆษณาสินค้ามวลชน หรือนักประชาสัมพันธ์ที่เดินสายไปกับรถโฆษณาขายเครื่องดื่มชูกำลัง ตะลอน - ตะลอน ไปตามทางหลวงชนบทในหน้าหนาว หรือนักบำเพ็ญประโยชน์ไปแจกผ้าห่ม หรือเป็นนักเขียนสารคดีท่องเที่ยว นักหนังสือพิมพ์ คอลัมนิสต์ นักเขียนบล็อค นักต่อสู้(กับเตี่ย)เพื่อสิทธิมนุษยชน(สิทธิสตรี) หรืออะไรประมาณนั้น  สไตล์ของท่านจึงจะไม่ใช่พริตตี้ขายรถยนต์อยู่ในโชว์รูม

เอ้ะ แล้วเขามีวิธีพันคอกันอย่างไร? 

[ยังมีต่อ – สนใจโปรดติดตามสุดสัปดาห์หน้า ศุกร์ที่ 15 มค. 59 ขอบคุณครับ]

เรื่องนี้ท่านผู้อ่านหลาย ๆ ท่านอาจจะทราบอยู่แล้ว  แต่ก็อาจจะยังมีอีกบางท่านที่ไม่สนใจเรื่องผ้าพันคอมาก่อน  ไม่ค่อยจะได้ใช้ผ้าพันคอเพราะเป็นคนงัยไม่รู้-สุขภาพดี ไม่เคยเป็นหวัดเจ็บคอกับใครเขาหรอก  แม้หน้าหนาวก็ไม่ต้องป้องกันบริเวณลำคอ เพราะเป็นคน “คอแข็ง” ซะอย่าง  ท่านเหล่านั้นอาจจะยังไม่ทราบ ว่าเขาใช้พันคอกันอย่างไร ดังนั้น วีดีโอต่อไปนี้ เด็กฝรั่งเศสคนหนึ่ง จะแสดงวิธีพันคอสไตล์หล่อไม่ตั้งใจ เช่นที่นายดาวิด ลาโรช พันอยู่นั้น ให้ท่านได้ชมและท่านจะได้ทราบ

ในยามที่ดินฟ้าอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าแม้จะตกต้องตามฤดูกาล แต่ตกมากบ้างน้อยบ้าง โลกเรากำลังตกอยู่ในภาวะโลกสะบัดร้อน ธรณีสะบัดหนาว พสุธาสะบัดสะบิ้ง และบางทีเย็นยะเยือก มีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง หวยออกไม่ตรงกับเลขเด็ดของอาจารย์ดัง  วีดีโอลำดับถัดไปนี้อาจเป็นประโยชน์อย่างมากต่อท่านก็ได้ ใครจะรู้

ที่เวลาวีดีโอ 0143น้องเขาฉวยผ้าพันคอ มาพันคอ

1)   พับผ้า ทบเข้าครึ่งหนึ่ง เวลา 0144
2)   พันรอบคอ เวลา 0145
3)   สอดมือผ่านบ่วง เข้ามาฉวยปลายผ้าอีกด้านหนึ่งลากผ่านบ่วงออกมา กลายเป็นปมใหญ่
4)   กระชับผ้าให้เข้าที่ รอบคอ เป็นอันเสร็จพิธีเวลา 0146

สรุปว่า ท่านจะเห็นน้องเขาพับผ้าครึ่งหนึ่ง แล้วพาดหลังคอ  ด้านหน้าข้างหนึ่งจะมีบ่วง แล้วสอดชายผ้าอีกด้านหนึ่งเข้าไปในบ่วง กลายเป็นปมขนาดเขื่อง นี่เป็นวิธีพันคอแบบหล่อไม่ตั้งใจที่นักเขียนชายชาวฝรั่งเศสผู้นั้น ไม่ได้ตอบคำถามซึ่งสตรีชาวอเมริกันถามมา  อันเป็นวิธีง่าย สะดวก รวดเร็ว และผลที่ได้ เท่ห์




ลิงก์วีดีโอ :https://www.youtube.com/watch?v=2WpgHj-x4rU

โปรดสังเกตวิธีพันคอด้วยว่า  บ่วงสำหรับสอดชายผ้านั้น ท่านจะทำบ่วงพาดมาจากไหล่ด้านซ้ายมือของท่าน(รูป 2 และ 3) หรือพาดจากไหล่ด้านขวามือของท่าน(รูป 1)ก็ได้ สุดแล้วแต่ว่าท่านจะเห็นว่าด้านไหนจะดูดีสำหรับท่านในวันนั้น เช่นเหมาะแก่ลายและสีสันของผ้าพันคอผืนนั้น หรือเสื้อผ้าที่สวมใส่ หรืออารมณ์ของท่านในเวลานั้น  ครั้นได้กระชับ ขยับ ผ้าพันคอเข้ารูปดีแล้ว ท่านจะลองขยับให้บ่วงกับชายผ้าที่ห้อยลงมานั้น ให้อยู่ด้านไหนของใบหน้าก็ได้อีก  สำหรับท่านที่หน้ากลมเป็นวงเดือน ถ้าขยับให้บ่วงหรือปมผ้าพันคอมาอยู่ตรงกลางใต้คาง ก็อาจจะทำให้ใบหน้าท่านดูเป็นรูปไข่มากขึ้นก็ได้ เป็นต้น

ต่อไปเป็นภาพนายแบบ หล่อไม่ตั้งใจด้วยผ้าพันคอ สามนายสามวัย















อย่างไรก็ดี บางท่านอาจเห็นว่านั่นเป็นเรื่องของพวกนายแบบและเรื่องของคนฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียง  แล้วในโลกแห่งความเป็นจริง ในชีวิตจริงล่ะ?  สไตล์การพันคอแบบนี้ ได้รั่วไหลออกไปนอกประเทศฝรั่งเศส ไปยังคนในที่อื่น ๆอย่างไรบ้าง?


[ยังมีต่อ -- สนใจโปรดติดตามสุดสัปดาห์หน้า ครับ]

ผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนบท เช่นผู้เขียนเป็นต้น ก็มักจะมีผ้าขาวม้าคนละสองสามผืนกันอยู่แล้วฤดูหนาวนี้ท่านสามารถใช้ผ้าขาวม้าผืนหนึ่งเป็นผ้าพันคอชนิด เอช้าฟ ได้เป็นอย่างดี  เมื่อฉวยผ้าขาวม้ามาผืนหนึ่งหมายความว่าไม่ใช่ผืนที่กำลังนุ่งอยู่นะ มาพันคอตามสไตล์หล่อไม่ตั้งใจเรียบร้อยแล้ว ท่านจะดูดีมีราคากลายเป็นไม่ธรรมดา ขึ้นมาทันที  ทั้ง ๆ ที่ตัวจริงท่านอาจจะยังเป็นสินค้ามือสองตลาดโรงเกลือเหมือนเดิม 

หากเป็นหมู่บ้านชนบททางภาคใต้ ท่านก็สามารถนุ่งโสร่งแล้วพันคอสไตล์หล่อไม่ตั้งใจ ออกจากบ้านในสวนลองกองของท่าน แล้วเดินไปเดินมาในหมู่บ้าน หัวบ้านจดท้ายบ้าน สาวแก่แม่หม้ายทั้งหลายในหมู่บ้าน จะเมียงมอง วาบหวิว ปั่นป่วน และไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมท่านจึงดูหล่อราวกับไม่ได้ตั้งใจได้อย่างนั้น และพวกเธอทั้งหลายก็จะไม่รู้วิธีใช้ผ้าพันคอ(ผ้าขาวม้า)ของท่าน  เพราะเคยเห็นแต่คนเขาใช้ผ้าขาวม้าคาดเอว  และต่างก็จะพากันพิศวง กระสันถึง(เขียนเว่อเปล่าไม่รู้?)ว่าท่านทำได้อย่างไร

ในหนังสือเรื่อง เจ้าชายน้อย  ที่หลาย ๆ ท่านได้อ่านเมื่อนานมาแล้ว หากท่านกลับไปพลิกดูใหม่ก็จะพบว่า ภาพประกอบตัวการ์ตูนเจ้าชายน้อย จะมีอยู่หลายภาพที่เจ้าชายน้อยมีผ้าพันคอและชายผ้าปลิวไสวไปตามสายลม  บัดนี้ท่านทราบแล้วว่าทำไมเจ้าชายน้อยจะต้องมีผ้าพันคอ และทำไมผ้าพันคอต้องปลิวไปตามสายลมด้วย  แต่ว่าก่อนนี้ ท่านก็รู้ ไม่ใช่ไม่รู้ ว่าชายผ้าพันคอที่สะบัดไปตามสายลม คือบทกวี คืออารมณ์ที่หวั่นไหว คือความทรมานใจ คือความงามอันเป็นอกาลิโก  แต่ท่านทราบโดยที่ไม่รู้ตัว รู้โดยที่ไม่ได้ตั้งสติ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ว่าตัวเองกำลังต้องมนตร์อะไร

“ไรวัน ปูโล กะละปา”  เป็นเพลงที่เคยลากลิงก์ไปโพสต์ที่หน้าเฟสบุคของผู้เขียน หลายต่อหลายครั้งตลอดปีก่อนเวอร์ชันที่ลากไปนั้น นักร้องอินโดเนเซีย นายดิโอนิซุสอากุง หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า ดิโอน อากุง เป็นผู้ร้อง  คราวนี้ได้ลากมิวสิควีดีโอมาฝัง(เอ็มเบด)ที่หน้าบลอค แต่มิใช่ด้วยเหตุผลเรื่องเพลงหรือการร้องเพลง  หากว่าเป็นด้วยเหตุผลเรื่องการใช้ผ้าพันคอ

ในมิวสิควีดีโอตอนที่ถ่ายทำบนยอดเขา(กุหนุง) ซึ่งอากาศหนาวเย็น ดิโอน อากุง จะใช้ผ้าพันคอ  แต่ถ้าเป็นฉากบนพื้นราบซึ่งเราจะแลเห็นยอดมะพร้าว(กะละปา) หรือที่ชายทะเล(ปันไต)  เขาจะไม่มีผ้าพันคอ(สยาล)เพราะอากาศมันหนาวกะผีอะไรล่ะจะอย่างไรก็ดี นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะเขียนถึง(คำว่า ประเด็น – ภาษาอินโดฯว่างัยก็ไม่ทราบ ยังเรียนไม่ถึง)

ประเด็นอยู่ที่ว่า ท่านผู้อ่านบางท่านที่เคยคลิกชมมิวสิควีดีโอตั้งแต่ต้นจนจบ มัวแต่ฟังเพลงที่เขาร้อง  ท่านเคยสังเกตบ้างหรือไม่ว่านักร้องผู้นี้พันคอด้วยสไตล์อะไร? 



ลิงก์วีดีโอ:https://www.youtube.com/watch?v=zvPgjc982jU

ท่านผู้อ่านที่เพิ่งคลิกชมวีดีโอเพลงข้างบนจบลง  คงไม่ต้องการให้ผู้เขียนย้ำให้เป็นที่น่าเบื่อหน่าย  เพราะบัดนี้ ท่านทราบด้วยตนเอง เห็นกะตา แล้วว่านักร้องอินโดเนเซียผู้นี้ ก็เป็นอีกคนหนึ่งนอกประเทศฝรั่งเศส  ที่มีรสนิยมการใช้ผ้าพันคอในลีลา หล่อไม่ตั้งใจ

แล้วตัวท่านผู้อ่านเองล่ะ?หน้าหนาวนี้ -- และปีใหม่นี้ ท่านตัดสินใจแล้วหรือยังว่าจะยังยึดมั่นถือมั่นอยู่กับสภาพหล่อไม่เสร็จ-ดังเดิม โดยที่หล่อไม่เสร็จ แปลว่า หล่อกะผีที่ไหนล่ะ  หรือว่าท่านจะเปลี่ยนวิถีชีวิตไปสู่จินตนาการใหม่ ในแนวหล่อไม่ตั้งใจ?






แดง ใบเล่

ธันวาคม 25, 58

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น