ที่จริงเรื่องนี้กินความถึงผู้หญิงด้วย กล่าวคือผู้หญิงฝรั่งเศสก็สวยแบบ “สวยไม่ได้ตั้งใจ”
ได้เหมือนกัน แต่เนื่องจากความรักสวยรักงามถือว่าเป็นธรรมชาติของหญิงอยู่แล้ว แม้พวกเธอ “ตั้งใจ” จะทำสวยก็ไม่มีใครเขาถือสา การที่ผู้หญิงสักคนหนึ่งพยายามจะทำสวย ไม่เป็นประเด็นแห่งการติฉินนินทาหรือวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องนี้จะเป็นที่น่าสะดุดอยู่ก็เฉพาะเพศชาย
หรือเกย์ก็ได้ คือผู้ชายฝรั่งเศสจะต้องหล่ออย่าง “ไม่ได้ตั้งใจ” เท่านั้น -
จึงจะมีค่า หากคนเขาสังเกตรู้เมื่อไรว่า ชายใด
“ตั้งใจ” จะทำหล่อ เขาผู้นั้นจะราคาตกทันที
ผู้ชายฝรั่งเศสจึงมีภาระในชีวิตอยู่อย่าง คือทุกขเวทนาอยู่แต่ว่า
ทำอย่างไรตัวเองจึงจะหล่อได้ อย่างชนิดแลดูเหมือนกับว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำหล่อ แล้วถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ก็จะต้องมีท่าทางฉลาดช่างคิด ซึ่งตรงกันข้ามกับอเมริกันที่ถือกันว่า
ถามปุ้บต้องตอบปั้บ จึงจะฉลาดและจริงใจ
สำหรับคนฝรั่งเศสนั้นไม่จำเป็นเลยว่าเมื่อถูกถามปุ้บ เป็นต้องตอบปั้บ เมื่อถามปุ้บ - อาจแสร้งทำเป็นใช้ความคิดสักนิดแล้วค่อยตอบ
จึงจะฉลาด ส่วนพวกถามปุ้บ ๆ ตอบปั้บ ๆ
นั้น ทำบ่อย ๆ เข้า เขาจะเห็นว่าโง่นิด ๆ และปัญญาอ่อนหน่อย ๆ
การพยายามทำหล่ออย่างไม่ได้ตั้งใจนี้ ชายชาวฝรั่งเศสจะต้องเสียเวลา เปลืองพลังงาน
และสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย มิใช่น้อย ๆ
แต่คนฝรั่งเศสก็จะเรียนรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ
เทศกาลปีใหม่ตกอยู่ในหน้าหนาว การแต่งเนื้อแต่งตัวของผู้คนก็จะค่อนข้างทึบ ๆ
ทึม ๆ เสื้อผ้าต้องหนาเทอะทะขึ้นเพื่อรักษาร่างกายให้อุ่น
ป้องกันความหนาวเย็นของลมฟ้าอากาศ
เนื้อตัวและทรวดทรงองค์เอวจะถูกห่อหุ้มมิดชิด สีเครื่องนุ่งห่มชั้นนอกก็จะใช้สีตุ่น ๆ มืด ๆ
เป็นธรรมานุธรรมะปฏิบัติของการแต่งตัวในฤดูนี้
แล้วพวกทำหล่อแบบไม่ได้ตั้งใจ - จะมีทางออกอย่างไร?
นักเขียนชายชาวฝรั่งเศสผู้หนึ่ง เขียนหนังสือเล่มหนึ่งเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตและนิสัยใจคอของชาวปารีส เวลานี้ได้กลายเป็นหนังสือขายดีและถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ
ซึ่งนักท่องเที่ยวอเมริกันประเภทปัญญาชน และรักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนรักเสรีภาพ
เสมอภาค และภราดรภาพ จะชอบอ่านระหว่างเดินทางมาท่องเที่ยวในฝรั่งเศส ในรายการสัมภาษณ์ทางอินเตอร์เนต
สตรีชาวอเมริกันผู้หนึ่ง ตั้งคำถามกับนักเขียนชายชาวฝรั่งเศสผู้นั้น ว่า
“คุณช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม เวลาผู้ชายฝรั่งเศสเขาผูกผ้าพันคอ เขาทำราวกับว่า(หล่อ)ไม่ได้ตั้งใจ พวกเขาทำได้อย่างไร?”
นักเขียนฝรั่งเศสผู้นั้น
อึกอักเล็กน้อย ได้แต่หัวเราะเกลื่อนกลืน
แล้วพูดว่าผมเข้าใจ--ผมเข้าใจคำถามของคุณว่าคุณหมายความว่าอะไร แต่แล้วเขาก็ไม่ยอมตอบคำถามที่พยายามเจาะลึกว่าการทำเป็นหล่อแบบไม่ได้ตั้งใจในหน้าหนาว
โดยอาศัยศิลปะการผูกผ้าพันคอของชายฝรั่งเศสนั้น เขาทำกันอย่างไร?
ผู้เขียนบทความนี้(แดง
ใบเล่)สะเออะคิดว่าตัวเองพอจะรู้ว่า
ทำไมนักเขียนฝรั่งเศสผู้นั้นจึงหลีกเลี่ยงเบี่ยงบ่าย
ที่จะตอบคำถามแก่สตรีอเมริกัน
ทั้งนี้ก็เพราะว่า
ที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นความลับระดับชาติของฝรั่งเศส การเปิดเผยเรื่องนี้เท่ากับกระทำการทรยศต่อชาติ
ข้าพเจ้าผู้เป็นเจ้าของบล็อคนี้
ไม่ใช่คนฝรั่งเศส
เพราะฉะนั้นเพื่อเห็นแก่มิตรรักนักอ่านทั้งหลายผู้ที่ต้องการจะทราบความลับเรื่องการผูกผ้าพันคอแบบหล่อไม่ตั้งใจ ข้าพเจ้าจะได้นำมาแฉในลำดับต่อไป รับรองว่าจะเปิดเผยหมดเปลือก
แฉกันอย่างโจ่งแจ้ง โจ๋งครึ่ม
[ยังมีต่อ--โปรดติดตามอ่านสุดสัปดาห์หน้า ศุกร์ที่ 8 มกรา 59 ครับ]
ว่ากันคร่าว ๆ
ผ้าพันคอมีสองชนิดหลักคือ เอ ช้าฟ กับ
ฟูลา ชนิดที่เราจะพูดถึงคือผ้าพันคอชนิด
เอช้าฟ -
écharpe หรือ scarf ในภาษาอังกฤษ
ซึ่งชายหรือหญิงก็ใช้ได้ แต่ตามปกติบุรุษจะใช้ผ้าพันคอประเภทนี้มากกว่าสตรี ผ้าจะมีลักษณะเป็นแถบยาว คล้ายกับสายสะพาย ส่วน ฟูลา นั้นโดยมากจะเป็นผ้าผู้หญิง
มีลักษณะเป็นผืนสี่เหลี่ยม ใหญ่พอสมควร ผู้ชายบางคนก็ใช้แต่เป็นส่วนน้อย ซึ่งบทความบทนี้จะไม่ขอกล่าวถึง
การพันคอด้วย เอ ช้าฟ
ทำได้หลายวิธี สุดแล้วแต่ใครจะพัน หรือจะสักแต่ว่าพัน ๆ หรือพันมั่ว ๆ
ก็ไม่มีใครว่า แต่เราจะเน้นวิธีพันคอของพวกทำหล่อเหมือนไม่ได้ตั้งใจ
โปรดชมวีดีโอต่อไปนี้ ประธานาธิบดี
ฟร็องซัว ออลล็ง กำลังกล่าวไว้อาลัยผู้เสียชีวิต จากการสังหารหมู่ที่ปารีส เมื่อ
13 ธันวาคม 2558 ให้สังเกตผ้าพันคอสีขรึม
กับสังเกตวิธีพันคอของท่านประธานาธิบดี
วิธีพันคอวิธีนี้เป็นการตั้งใจ จงใจ พิถีพิถัน สไตล์เป็นทางการและผู้สูงวัยนิยมทำ
นำมาให้ท่านชมเป็นตัวอย่าง เพื่อประโยชน์ในการเปรียบเทียบ การพันคอสไตล์นี้เราพบได้ทั่วไปไม่เฉพาะแต่ในงานพิธี แม้ตามท้องถนนก็มีให้เห็น ส่วนมากก็มักจะพบในคนอายุราว ๆ
สามสิบห้าและกว่านั้น ส่วนผ้าพันคอก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นสีมืด
ๆ เสมอไป
ลิงก์วีดีโอ: https://www.youtube.com/watch?v=lqTtAsiiCFc
วีดีโอถัดไปนี้
แสดงตัวอย่างการพันคอแบบ หล่อไม่ตั้งใจ ของนายดาวิด ลาโรช นักพูดปลุกระดมให้คนสู้ชีวิต
เขามีชื่อเสียงในวงการเล็ก ๆ วงการนี้พอสมควรในเวลานี้
ทั้งในฝรั่งเศสและประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส เช่น ในมอรอคโค เป็นต้น เขาไปขายหลักสูตรฝึกอบรมของเขาที่นั่นด้วย
ลิงก์วีดีโอ: https://www.youtube.com/watch?v=z7b4QQCee24
ในวีดีโอ นายดาวิด
ลาโรช กำลังพูดปลุกระดมอยู่หน้าประตูชัย กรุงปารีส เขามีอะพาร์ตเมนต์และสตูดิโอสำหรับสร้างผลงาน
และสร้างหลักสูตรฝึกอบรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ อยู่ไม่ไกลจากประตูชัย แสดงว่าเขามั่งมีไม่น้อยเลย มหาเศรษฐีฝรั่งเศสคนหนึ่งมีนิวาสน์สถานอยู่แถว
ๆ นั้น คือ มาดาม เดอ รอธชิลด์ เจ้าของโรงบ่มไวน์ เดอ รอธชิลด์
เหล้าไวน์ของเธอราคาขวดละหลายบาท – ถ้าคิดเป็นเงินไทย สำหรับนายดาวิด ลาโรช นั้น ได้ข่าวแว่ว ๆ
ว่าคุณปู่ของเขาเป็นเจ้าของห้างสินค้าไฮแฟชั่น ยี่ห้อ “กี ลาโรช” เรื่องนี้จะเท็จจริงอย่างไร ไม่ขอรับรอง
นายดาวิด ลาโรช
เป็นคนหน้าตาธรรมดา เพราะฉะนั้น การพันคอและแต่งตัวแบบหล่อไม่ตั้งใจ จะช่วยให้เขาดูดีกว่าธรรมดา เสื้อแจ็คเกตสีมืดที่สวมอยู่
ท่านที่สนใจเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวทั้งหลาย ดูก็รู้ว่าต้องเป็นสินค้าไฮแฟชั่น
ไม่ใช่โบ้เบ้ (ประโยคหลัง พูดถึงมิติของเสื้อผ้า ใช้ภาษาต่างประเทศทั้งหมด
ไม่มีภาษาไทยเลย ทั้งคำว่า “ไฮแฟชั่น” และ “โบ้เบ้”)
ผ้าพันคอที่ใช้ มีสีน้ำเงินเข้ม
ขรึมเข้ากับแจ็คเกตก็จริงอยู่ แต่ท่านก็จะเห็นว่า
มีเหลื่อมสีขาวหม่นปนอยู่ด้วย
สำหรับชายชาวฝรั่งเศส - ผ้าพันคอบ่งบอกถึงบทกวี ความเป็นเจ้าบทเจ้ากลอน
ตัวผ้าพันคอนั้นเองเกือบจะเหมือนบทกวีหนึ่งบท
สำหรับหญิงฝรั่งเศสผ้าพันคอคือความงามอันนิรันดร์ ความงามที่เป็นอกาลิโก ชายและหญิงฝรั่งเศสรัญจวนใจกับการที่ปลายผ้าพันคอของตน
จะปลิวสะบัด หวั่นไหวไปตามลมหนาวอันแปรปรวน และทรมานใจของนครปารีส
โปรดสังเกตลักษณะการพันคอของนายดาวิด
ลาโรช ซึ่งไม่เหมือนกับวิธีพันคอของประธานาธิบดี ออลล็ง ในวีดีโอก่อนหน้า นายดาวิด ลาโรชแสดงตัวอย่างแบบฉบับของการพันคออย่างหล่อไม่ได้ตั้งใจและหล่อไม่รู้ตัว
ของชายชาวฝรั่งเศส -- ที่สตรีอเมริกันผู้นั้นถามถึง
ท่านผู้อ่านสตรีที่ใช้ผ้าพันคอชนิด
เอช้าฟ ในหน้าหนาวเมืองไทย
ท่านก็สามารถพันคอสไตล์นี้ได้เหมือนกัน
แม้อาจจะทำให้ท่านไม่ดูหวานอย่างการพันคอด้วยผ้าพันคอชนิด ฟูลา คือถ้าใช้เอช้าฟพันคอในหน้าหนาวนี้ ท่านจะเสนอตัวต่อโลกออกไปในแนวสตรีปัญญาชน
มีการศึกษาสูง หรือผู้บริหารกิจการชนิดลุย ๆ หรือทำงานบริษัทโฆษณาสินค้ามวลชน หรือนักประชาสัมพันธ์ที่เดินสายไปกับรถโฆษณาขายเครื่องดื่มชูกำลัง
ตะลอน - ตะลอน ไปตามทางหลวงชนบทในหน้าหนาว หรือนักบำเพ็ญประโยชน์ไปแจกผ้าห่ม หรือเป็นนักเขียนสารคดีท่องเที่ยว
นักหนังสือพิมพ์ คอลัมนิสต์ นักเขียนบล็อค นักต่อสู้(กับเตี่ย)เพื่อสิทธิมนุษยชน(สิทธิสตรี)
หรืออะไรประมาณนั้น สไตล์ของท่านจึงจะไม่ใช่พริตตี้ขายรถยนต์อยู่ในโชว์รูม
เอ้ะ แล้วเขามีวิธีพันคอกันอย่างไร?
[ยังมีต่อ
– สนใจโปรดติดตามสุดสัปดาห์หน้า ศุกร์ที่ 15 มค. 59 ขอบคุณครับ]
เรื่องนี้ท่านผู้อ่านหลาย
ๆ ท่านอาจจะทราบอยู่แล้ว
แต่ก็อาจจะยังมีอีกบางท่านที่ไม่สนใจเรื่องผ้าพันคอมาก่อน ไม่ค่อยจะได้ใช้ผ้าพันคอเพราะเป็นคนงัยไม่รู้-สุขภาพดี
ไม่เคยเป็นหวัดเจ็บคอกับใครเขาหรอก
แม้หน้าหนาวก็ไม่ต้องป้องกันบริเวณลำคอ เพราะเป็นคน “คอแข็ง” ซะอย่าง ท่านเหล่านั้นอาจจะยังไม่ทราบ ว่าเขาใช้พันคอกันอย่างไร
ดังนั้น วีดีโอต่อไปนี้ เด็กฝรั่งเศสคนหนึ่ง จะแสดงวิธีพันคอสไตล์หล่อไม่ตั้งใจ เช่นที่นายดาวิด
ลาโรช พันอยู่นั้น ให้ท่านได้ชมและท่านจะได้ทราบ
ในยามที่ดินฟ้าอากาศแปรปรวน
ฝนฟ้าแม้จะตกต้องตามฤดูกาล แต่ตกมากบ้างน้อยบ้าง โลกเรากำลังตกอยู่ในภาวะโลกสะบัดร้อน
ธรณีสะบัดหนาว พสุธาสะบัดสะบิ้ง และบางทีเย็นยะเยือก มีน้ำท่วมฉับพลัน
น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง หวยออกไม่ตรงกับเลขเด็ดของอาจารย์ดัง วีดีโอลำดับถัดไปนี้อาจเป็นประโยชน์อย่างมากต่อท่านก็ได้
ใครจะรู้
ที่เวลาวีดีโอ 0143น้องเขาฉวยผ้าพันคอ
มาพันคอ
1)
พับผ้า ทบเข้าครึ่งหนึ่ง เวลา 0144
2)
พันรอบคอ เวลา 0145
3)
สอดมือผ่านบ่วง เข้ามาฉวยปลายผ้าอีกด้านหนึ่งลากผ่านบ่วงออกมา
กลายเป็นปมใหญ่
4)
กระชับผ้าให้เข้าที่ รอบคอ เป็นอันเสร็จพิธีเวลา
0146
สรุปว่า ท่านจะเห็นน้องเขาพับผ้าครึ่งหนึ่ง
แล้วพาดหลังคอ ด้านหน้าข้างหนึ่งจะมีบ่วง
แล้วสอดชายผ้าอีกด้านหนึ่งเข้าไปในบ่วง กลายเป็นปมขนาดเขื่อง
นี่เป็นวิธีพันคอแบบหล่อไม่ตั้งใจที่นักเขียนชายชาวฝรั่งเศสผู้นั้น
ไม่ได้ตอบคำถามซึ่งสตรีชาวอเมริกันถามมา
อันเป็นวิธีง่าย สะดวก รวดเร็ว และผลที่ได้ เท่ห์
ลิงก์วีดีโอ : https://www.youtube.com/watch?v=2WpgHj-x4rU
โปรดสังเกตวิธีพันคอด้วยว่า บ่วงสำหรับสอดชายผ้านั้น
ท่านจะทำบ่วงพาดมาจากไหล่ด้านซ้ายมือของท่าน(รูป 2 และ 3) หรือพาดจากไหล่ด้านขวามือของท่าน(รูป
1)ก็ได้ สุดแล้วแต่ว่าท่านจะเห็นว่าด้านไหนจะดูดีสำหรับท่านในวันนั้น
เช่นเหมาะแก่ลายและสีสันของผ้าพันคอผืนนั้น หรือเสื้อผ้าที่สวมใส่
หรืออารมณ์ของท่านในเวลานั้น
ครั้นได้กระชับ ขยับ ผ้าพันคอเข้ารูปดีแล้ว ท่านจะลองขยับให้บ่วงกับชายผ้าที่ห้อยลงมานั้น
ให้อยู่ด้านไหนของใบหน้าก็ได้อีก
สำหรับท่านที่หน้ากลมเป็นวงเดือน ถ้าขยับให้บ่วงหรือปมผ้าพันคอมาอยู่ตรงกลางใต้คาง
ก็อาจจะทำให้ใบหน้าท่านดูเป็นรูปไข่มากขึ้นก็ได้ เป็นต้น
ต่อไปเป็นภาพนายแบบ
หล่อไม่ตั้งใจด้วยผ้าพันคอ สามนายสามวัย
อย่างไรก็ดี
บางท่านอาจเห็นว่านั่นเป็นเรื่องของพวกนายแบบและเรื่องของคนฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียง แล้วในโลกแห่งความเป็นจริง
ในชีวิตจริงล่ะ? สไตล์การพันคอแบบนี้
ได้รั่วไหลออกไปนอกประเทศฝรั่งเศส ไปยังคนในที่อื่น ๆอย่างไรบ้าง?
[ยังมีต่อ
-- สนใจโปรดติดตามสุดสัปดาห์หน้า ครับ]
ผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนบท
เช่นผู้เขียนเป็นต้น ก็มักจะมีผ้าขาวม้าคนละสองสามผืนกันอยู่แล้วฤดูหนาวนี้ท่านสามารถใช้ผ้าขาวม้าผืนหนึ่งเป็นผ้าพันคอชนิด
เอช้าฟ ได้เป็นอย่างดี เมื่อฉวยผ้าขาวม้ามาผืนหนึ่งหมายความว่าไม่ใช่ผืนที่กำลังนุ่งอยู่นะ
มาพันคอตามสไตล์หล่อไม่ตั้งใจเรียบร้อยแล้ว ท่านจะดูดีมีราคากลายเป็นไม่ธรรมดา ขึ้นมาทันที ทั้ง ๆ ที่ตัวจริงท่านอาจจะยังเป็นสินค้ามือสองตลาดโรงเกลือเหมือนเดิม
หากเป็นหมู่บ้านชนบททางภาคใต้
ท่านก็สามารถนุ่งโสร่งแล้วพันคอสไตล์หล่อไม่ตั้งใจ ออกจากบ้านในสวนลองกองของท่าน
แล้วเดินไปเดินมาในหมู่บ้าน หัวบ้านจดท้ายบ้าน สาวแก่แม่หม้ายทั้งหลายในหมู่บ้าน
จะเมียงมอง วาบหวิว ปั่นป่วน และไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไมท่านจึงดูหล่อราวกับไม่ได้ตั้งใจได้อย่างนั้น
และพวกเธอทั้งหลายก็จะไม่รู้วิธีใช้ผ้าพันคอ(ผ้าขาวม้า)ของท่าน เพราะเคยเห็นแต่คนเขาใช้ผ้าขาวม้าคาดเอว และต่างก็จะพากันพิศวง
กระสันถึง(เขียนเว่อเปล่าไม่รู้?)ว่าท่านทำได้อย่างไร
ในหนังสือเรื่อง
เจ้าชายน้อย ที่หลาย ๆ
ท่านได้อ่านเมื่อนานมาแล้ว หากท่านกลับไปพลิกดูใหม่ก็จะพบว่า
ภาพประกอบตัวการ์ตูนเจ้าชายน้อย จะมีอยู่หลายภาพที่เจ้าชายน้อยมีผ้าพันคอและชายผ้าปลิวไสวไปตามสายลม
บัดนี้ท่านทราบแล้วว่าทำไมเจ้าชายน้อยจะต้องมีผ้าพันคอ
และทำไมผ้าพันคอต้องปลิวไปตามสายลมด้วย
แต่ว่าก่อนนี้ ท่านก็รู้ ไม่ใช่ไม่รู้ ว่าชายผ้าพันคอที่สะบัดไปตามสายลม
คือบทกวี คืออารมณ์ที่หวั่นไหว คือความทรมานใจ คือความงามอันเป็นอกาลิโก แต่ท่านทราบโดยที่ไม่รู้ตัว รู้โดยที่ไม่ได้ตั้งสติ
พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ว่าตัวเองกำลังต้องมนตร์อะไร
“ไรวัน ปูโล กะละปา” เป็นเพลงที่เคยลากลิงก์ไปโพสต์ที่หน้าเฟสบุคของผู้เขียน
หลายต่อหลายครั้งตลอดปีก่อนเวอร์ชันที่ลากไปนั้น นักร้องอินโดเนเซีย นายดิโอนิซุสอากุง
หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า ดิโอน อากุง เป็นผู้ร้อง
คราวนี้ได้ลากมิวสิควีดีโอมาฝัง(เอ็มเบด)ที่หน้าบลอค
แต่มิใช่ด้วยเหตุผลเรื่องเพลงหรือการร้องเพลง
หากว่าเป็นด้วยเหตุผลเรื่องการใช้ผ้าพันคอ
ในมิวสิควีดีโอตอนที่ถ่ายทำบนยอดเขา(กุหนุง)
ซึ่งอากาศหนาวเย็น ดิโอน อากุง จะใช้ผ้าพันคอ แต่ถ้าเป็นฉากบนพื้นราบซึ่งเราจะแลเห็นยอดมะพร้าว(กะละปา)
หรือที่ชายทะเล(ปันไต) เขาจะไม่มีผ้าพันคอ(สยาล)เพราะอากาศมันหนาวกะผีอะไรล่ะจะอย่างไรก็ดี
นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะเขียนถึง(คำว่า ประเด็น – ภาษาอินโดฯว่างัยก็ไม่ทราบ ยังเรียนไม่ถึง)
ประเด็นอยู่ที่ว่า
ท่านผู้อ่านบางท่านที่เคยคลิกชมมิวสิควีดีโอตั้งแต่ต้นจนจบ
มัวแต่ฟังเพลงที่เขาร้อง ท่านเคยสังเกตบ้างหรือไม่ว่านักร้องผู้นี้พันคอด้วยสไตล์อะไร?
ลิงก์วีดีโอ: https://www.youtube.com/watch?v=zvPgjc982jU
ท่านผู้อ่านที่เพิ่งคลิกชมวีดีโอเพลงข้างบนจบลง คงไม่ต้องการให้ผู้เขียนย้ำให้เป็นที่น่าเบื่อหน่าย เพราะบัดนี้ ท่านทราบด้วยตนเอง เห็นกะตา
แล้วว่านักร้องอินโดเนเซียผู้นี้ ก็เป็นอีกคนหนึ่งนอกประเทศฝรั่งเศส ที่มีรสนิยมการใช้ผ้าพันคอในลีลา หล่อไม่ตั้งใจ
แล้วตัวท่านผู้อ่านเองล่ะ?หน้าหนาวนี้
-- และปีใหม่นี้ ท่านตัดสินใจแล้วหรือยังว่าจะยังยึดมั่นถือมั่นอยู่กับสภาพหล่อไม่เสร็จ-ดังเดิม
โดยที่หล่อไม่เสร็จ แปลว่า หล่อกะผีที่ไหนล่ะ หรือว่าท่านจะเปลี่ยนวิถีชีวิตไปสู่จินตนาการใหม่
ในแนวหล่อไม่ตั้งใจ?
แดง ใบเล่
ธันวาคม 25, 58
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น